ทริปล่มเชิญทางนี้!!! ดูหนังให้หายแค้นโควิท
เที่ยว Iceland from Home

กับ 25 ภาพยนตร์และซีรีส์ที่ดีที่สุดที่ถ่ายทำในไอซ์แลนด์ เทียบฉากต่อฉาก จากโลกใต้พิภพดึกดําบรรพ์ ถึงดวงดาวในอวกาศอันกว้างไกล


วิธีง่ายๆที่จะทำให้คุณได้รู้จัก “ประเทศไอซ์แลนด์” ดินแดนนอร์ดิกที่มีเมืองหลวงชื่อกรุงเรคยาวิกแห่งนี้ในมุมมองที่หลากหลาย ก็คือการดูหนังนั่นเอง เพราะนอกจากภูมิประเทศแสนงดงามที่ทำให้ไอซ์แลนด์เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ภูมิอากาศที่บ้าคลั่งและภูมิทัศน์อันน่าตื่นตะลึงยังดึงดูดผู้ผลิตภาพยนต์ชั้นนำของโลกให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศนี้อีกด้วย

เกาะไอซ์แลนด์อยู่ทางตอนเหนือของยุโรป เป็นผืนดินที่ยังใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของแนวแผ่นเปลือกโลกที่มีภูเขาไฟมากกว่าร้อยลูก ซึ่งหลายแห่งยังคงคุกรุ่นอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่มากถึง 11% เป็นธารน้ำแข็ง และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามแปลกตาหาที่ไหนไม่ได้

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลกแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการถ่ายทำภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน ทั้ง “จอเงิน” และ “จอแก้ว” โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งเป็นยุคของ “จอส่วนตัว” ที่ผู้คนนิยมดูหนังและซีรีส์ผ่านบริการสตรีมมิ่ง ประเทศนี้ได้กลายเป็นสตูดิโอสำคัญมากขึ้น ยิ่งทำให้เราเห็นไอซ์แลนด์เฉิดฉายเป็นฉากเด่นในหนังบ่อยขึ้นเรื่อยๆ


เชื่อว่าเดือนที่ผ่านมาหลายๆคนคงจะมีเพลนเที่ยวไอซ์แลนด์กันไว้แล้วแต่ต้องมาสะดุดเพราะการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ไม่เป็นไร World Explorer ได้รวบรวม 25 ภาพยนตร์และซีรีส์ที่ดีที่สุดที่ถ่ายทำในไอซ์แลนด์ พร้อมด้วยสถานที่ที่ถ่ายทำเทียบแบบฉากต่อฉาก มาให้คุณแล้ว

ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลย!


ภาพยนตร์ชื่อดังหลากหลายเรื่องถูกถ่ายทำบนเกาะลึกลับแห่งนี้ แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้ดำเนินอยู่ในไอซ์แลนด์เลยก็ตาม ดังนั้นถ้าเปรียบประเทศแห่งนี้เป็นนักแสดงก็ถือว่าเป็นนางเอกชั้นแนวหน้าที่ได้รับ บทเด่นเหนือกว่าญาญ่า อุรัสยา, ชมภู่ อารยา หรือแม้แต่อั้ม พัชราภาเสียอีก เพราะมีความสวยแปลกเป็นเอกลักษณ์และมีความสามารถในการแ สดงสูงปรี๊ด

นอกจากรับบทเป็นตัวเองชิลๆสวยๆแล้ว ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ไอซ์แลนด์ยังสามารถสวมบทบาทได ้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสแกนดิเนเวีย, นอร์เวย์, กรีนแลนด์, รัสเซีย, อิตาลี, เทือกเขาหิมาลัย, เนปาล, ธิเบต, ญี่ปุ่น, เกาะในแปซิฟิก, ไซบีเรีย, มินนิโซตา, รวมถึงโลกดึกดำบรรพ์ โลกในตำนาน โลกในอนาคต โลกที่ล่มสลาย ไปจนถึงดาวเคราะห์แปลกๆ หลายดวงนอกโลก ไม่เพียงเท่านั้นภูมิประเทศ เหล่านี้ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับภาพยนตร์นำไปใช้เป็นตัวแทนสถานที่ต่างๆต่อไปได้ไม่จบสิ้น

อุตสาหกรรมภาพยนต์ของไอซ์แลนด์มีความเจริญเติบโตมากขึ้นทุกปีๆ แน่นอนว่าเหตุผลแรกเริ่มที่ ผู้ผลิตและทีมงานถ่ายทำเลือกประเทศไอซ์แลนด์ เพราะประเทศนี้มีธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายมาก แต่ละที่ก็อยู่ไม่ไกลกันนัก  แล้วยังง่ายสำหรับการเดินทางไปถึงทั้งจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และประเทศในทวีปยุโรป ใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง จากนิวยอร์ค หรือ 2 ชั่วโมงครึ่ง จากลอนดอนเท่านั้น

แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากความงดงามและตำแหน่งที่ตั้ง คือความสะดวกสบายในการทำงาน  เพราะโครงสร้างพื้นฐานที่ดี สวนทางกับสภาพภูมิประเทศที่ ยากลำบากช่วยให้การถ่ายทำเป็นไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งมีทีมงานถ่ายทำชาวไอซ์แลนด์ที่มีความเป็นมืออาชีพสูง สูงถึงขนาดที่ริดลีย์ สก็อต (Ridley Scott) ผู้สร้างหนังไซไฟอันน่าจดจำ อย่างแฟรนไชส์ Alien และ Blade Runner เคยเอ่ยปากชมไว้เลยทีเดียว

“การถ่ายทำในไอซ์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง! มันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยไป ทีมงานชาวไอซ์แลนด์มีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์ และทำให้ผมทำงานอย่างมีความ สุขมากๆ”

และเหตุผลสำคัญข้อสุดท้าย คือเรื่องเงินนั่นเอง ซึ่งต้องยกเครดิตให้รัฐบาลไอซ์แลนด์ ที่ต้องการส่งเสริมภาพลักษณ ์เพื่อการท่องเที่ยว จึงออกนโยบายให้รีฟันเงินคืนได้ถึง 25% ของต้นทุนการสร้างหนัง และถึงแม้ว่าไอซ์แลนด์จะไม่ได้เป็นสมาชิกของ EU แต่เป็นสมาชิกของ EEA หรือ เขตเศรษฐกิจยุโรป(European Economic Area) ทำให้ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่ผลิตในไอซ์แลนด์จะได้รับโควต้าต่างๆ ของยุโรปด้วย เช่น การขอทุนสร้างจากองค์กรใน EU และประเทศสมาชิกนั้นเอง

การได้ไปเยือนไอซ์แลนด์จึงเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของผู้คลั่งไคล้การดูหนัง เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องโปรดพร้อมกันหลายสิบเรื่องในคราวเดียว คุณสามารถใช้เป็นลิสท์หนังที่จะดูก่อนที่จะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ หรือ จะใช้วางแผนการเดินทางในรูปแบบใหม่ เพื่อเปลี่ยนประเทศที่งดงาม แห่งนี้เป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่ให้ภาพคมชัดสวยงามอลังการ


1. The Secret Life of Walter Mitty (2013)

กำกับ: Ben Stiller
นำแสดง: Ben Stiller, Kristen Wiig, Shirley MacLaine, Adam Scott, Kathryn Hahn และ Sean Penn
สถานที่ถ่ายทํา: ทั่วประเทศไอซ์แลนด์
ฉาก: เกือบทุกฉาก

The Secret Life of Walter Mitty หรือ ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้ เป็นหนังแนว Feel Good พูดถึงเรื่องราวของ Walter Mitty (Ben Stiller) ชายวัยทำงานที่ใช้ชีวิตสุดแสนธรรมดา ซึ่งมีอาการฝันกลางวันแบบหลุดโลกอยู่เป็นประจำ เขาทำงานให้กับนิตยสาร Life มีหน้าที่รับผิดชอบรูปถ่ายที่จะลงในนิตยสาร แต่ความซวยก็บังเกิดขึ้นเมื่อรูปหมายเลข 25 ของนักถ่ายภาพชื่อดังนามว่า Sean O’Connell (Sean Penn) ที่ต้องใช้ลงในหน้าปกนิตยสารฉบับสุดท้ายเกิดหายไปในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ(ทั้งๆที่ทำงานร่วมกันมา 16 ปี ไม่มีปัญหาอะไร) มิตตี้จึงต้องออกเดินทางตามหาฟิล์มหมายเลข 25 ซึ่งเป็นตัวชีชะตาอนาคตหน้าที่การทำงานของเขา ในขณะเดียวกันอาการละเมอฝันที่เขาเป็นอยู่นี้เองที่ช่วยให้เขากล้าที่จะก้าวออกไป สู่การเดินทางที่กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

ฉากหลังมีบทบาทสำคัญมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงแม้เรื่องราวจะเกิดขึ้นในหลายประเทศ แต่จริงๆแล้วมันถ่ายทำใน สหรัฐอเมริกาและไอซ์แลนด์เท่านั้น และน่าจะถือได้ว่าเป็นหนังที่ประเทศไอซ์แลนด์ได้แอร์ไทม์เยอะที่สุดที่เคยมีมา ไม่ว่าจะเป็นในโลกแห่งความเป็นจริงหรือช่วงฝันกลางวันหลุดโลกของ Walter เพราะฉากกรีนแลนด์และเทือกเขาหิมาลัยก็ถูกถ่ายทำในไอซ์แลนด์เช่นกัน

สติกกิโฮลมูร์ (Stykkishólmur) ในคาบสมุทรสไนล์เฟลส์โจกุล (ที่ใช้เป็นประเทศกรีนแลนด์)
เมืองเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนส ในทางใต้ของประเทศและทางตะวันออกเฉียงใต้รอบๆธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (ใช้เป็นประเทศเนปาล)
เซย์ดิร์ฟยอร์ดูร์ (Seyðisfjörður) ที่มีการปะทุของภูเขาไฟ
ที่บอร์การ์ฟอย์ดูร์ (Borgarfjörður) อีสตรี (Eystri) ที่เขาใช้ในการเล่นสเก็ตบอร์ดบนถนน
ไม่ไกลจากตัวเมืองเรคยาวิก ใกล้เบลาเฟยืล (Bláfjöll) หรือภูเขาสีฟ้าในเส้นทางไปยังแคว์ราแกดิร์ (Hveragerði)
นี่คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทรSnæfellsnesที่สวยงามด้วยบ้านเก่าที่น่ารักและมีสีสันมาก เมืองนี้เป็นฉากหลังสำหรับฉากภาพยนตร์ในกรีนแลนด์ในภาพยนตร์ฉากบาร์และฉากเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงที่นี่

Seydisfjordur
หมู่บ้านที่มีเสน่ห์ในไอซ์แลนด์ตะวันออกแห่งนี้เป็นที่ตั้งของฉากขี่ม้า longboard ที่โด่งดังเมื่อ Walter Mitty แลกเปลี่ยนจักรยานของเขาเพื่อ longboard และแล่นไปตามถนนที่ว่างเปล่

Seyðisfjörðurในฟยอร์ดตะวันออกใช้เป็นส่วนหนึ่งของฉากสเก็ตบอร์ดที่น่าตื่นเต้นและสวยงามและยังเป็นฉากของการระเบิดของภูเขาไฟ

Höfn
ฉากสนามบินแสดงให้เห็นถึง Walter Mitty Landing ในกรีนแลนด์ถูกยิงที่Höfnเมืองเล็ก ๆ บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ภายใต้เงาของธารน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่Vatnajökull

Grundarfjordur
นี่คือหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันตก Gundarfjörðurเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากซึ่งแสดงให้เห็นถึงเรือประมง Erkigsnek ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือ
อุทยานแห่งชาติVatnajökull

ฉากที่ควรมีลักษณะเป็นเทือกเขาหิมาลัยและอัฟกานิสถานถูกยิงในไอซ์แลนด์ที่อุทยานแห่งชาติVatnajökullในเงาของธารน้ำ
ไอซ์แลนด์ยังเคยเป็นตัวแทนของอัฟกานิสถานเช่นเดียวกับเกาะกรีนแลนด์ อุทยานแห่งชาติVatnajökullและธารน้ำแข็งFalljökullถูกนำมาใช้ในการถ่ายทำฉากที่วอลเตอร์พบฌอนโอคอนเนลล์นักข่าวภาพในพื้นที่ห่างไกลของอัฟกานิสถาน
ถ้าตัดเรื่องภาพที่งดงามแสนอลังการออก หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่โคตรธรรมดา ตัวอย่างหนังไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง คาแรกเตอร์ ประเด็นที่ใช้เล่าเรื่อง การลำดับเรื่อง รวมถึงเนื้อเรื่อง (ในหนังแอบมีแซวตัวเองเรื่องการเขียนบทไว้ด้วย ว่าจริง ๆ แล้ว มันมีสูตรของมันอยู่) แต่การทำหนังพล็อตธรรมดาให้ออกมาไม่ธรรมดานี่แหละที่ทำให้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากบรรดานักวิจารณ์และคนดูจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับแก่นแท้พื้นฐานของชีวิต คำพูดที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งดึงสติ แล้วจึงค่อยเสริมด้วยฉากหลังของธรรมชาติที่งดงามเกินคำบรรยาย ประกอบกันเป็นเรื่องราวที่ส่งต่อแรงบันดาลใจพรั่งพรูเข้าไปในจิตใจของผู้ชม

ในภาพยนต์เรื่องนี้ยังใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงของประเทศไอซ์แลนด์ด้วยนั่นคือ โอลาเฟอร์ ดาร์รี่ โอลาฟส์สัน (Ólafur Darri Ólafsson) ที่แสดงเป็นคนขับเฮลิคอปเตอร์ และกันนาร์ เฮลกาสัน (Gunnar Helgason) แสดงเป็นชายที่ขับรถหนีจาภูเขาไฟ เช่นเดียวกับเพลงประกอบภาพยนต์เรื่องนี้ก็บรรเลงโดยวงดนตรีของประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่าออฟ มอนสเตอร์ แอนด์ เมน (Of Monsters and Men)


2. Journey to the Center of the Earth (2008)

กำกับ: Eric Brevig
นำแสดง: Brendan Frase, Josh Hutcherson, และ Anita Briem
สถานที่ถ่ายทํา: อุทยาแห่งชาติสแนเฟลส์โจกุล  (Snaefellsjokull National Park)
ฉาก: การเดินทางเพื่อตามหา Max Anderson

Journey to the Center of the Earth หรือ ดิ่งทะลุสะดือโลก เป็นเรื่องราวการเดินทางสู่ ศูนย์กลางของโลก ของผู้กำกับ Eric Brevig สร้างจากนวนิยายวิทยาศาสตร์ คลาสสิกที่เขียนโดย Jules Verne ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1864 โดยดำเนินเรื่องผ่าน Trevor Anderson (รับบทโดย Brendan Fraser) นักธรณีวิทยาที่เชื่อมาตลอด ว่า Max Anderson พี่ชายของเขาที่หายตัวไปอย่ างลึกลับในระหว่างการเดินทา งสำรวจในไอซ์แลนด์เมื่อ 10 ปีก่อน ได้ค้นพบเส้นทางเชื่อมต่อไป ยังดินแดนใต้พิภพใจกลางโลก เทรเวอร์ จึงพา Sean Anderson (รับบทโดย Josh Hutcherson) หลานชายวัยรุ่นและ Hannah Ásgeirsdóttir (รับบทโดย Anita Briem) ไกด์ท้องถิ่นชาวไอซ์แลนด์ ออกเดินทางมายังปล่องภูเขาไ ฟที่นำไปสู่ศูนย์กลางของโลก  เพื่อตามหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายที่หายสาบสูญ

ซึ่งถ่ายทำที่ ภูเขาธารน้ำแข็งสแนเฟลส์โจก ุล (Snaefellsjokull Glacier) ในอุทยานแห่งชาติสแนเฟลส์โจก ุล (Snaefellsjokull National Park) ประเทศไอซ์แลนด์นั้นเอง ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งบนภูเขาไฟสูง 1,446 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล โดยภูเขาไฟนี้ก่อตัวตั้งแต่ การระเบิดเมื่อราวๆ 800,000 ปีที่แล้ว จนเกิดเป็นภูเขาไฟสลับชั้น (ภูเขาไฟชนิดเดียวกับภูเขาไฟฟูจิ) ในหลายๆ ตำนานเชื่อว่าภูเขาไฟแห่งนี ้เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของโลกใบนี้ จึงไม่แปลกที่จะถูกใช้เป็นทางเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก และยังได้นักแสดง Aníta Briem ชาวไอซ์แลนด์แท้ๆ ร่วมแสดงด้วย ถึงแม้ภาพยนต์เรื่องนี้จะไม่โด่งดังเท่ากับเวอร์ชั่นหนังสือ แต่ก็เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยที่สนุกสนานตื่นเต้น เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพืชกินคน ปลาปิรันย่า นกเรืองแสง หรือแม้แต่ไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์อีกด้วย จึงถือว่าเหมาะกับทุกเพศทุก วัยเป็นหนังครอบครัวอย่างแท้จริง


3. Justice League (2017)

กำกับ: Zack Snyder
นำแสดง: Ben Affleck, Henry Cavill, Gal Gadot, Jason Momoa, Ezra Miller, Ray Fisher และ Ciarán Hinds
สถานที่ถ่ายทำ: หมู่บ้านดจูพาวิก (Djúpavík Village) ในฟยอร์ดทางตะวันตก (Westfjords)
ฉาก: Bruce Wayne เดินทางไปยังเมืองชาวประมงเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพื่อตามหา Aquaman

Justice League หรือ จัสติซ ลีก คือภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร ซึ่งเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ในจักรวาลขยายดีซี (DC Extended Universe) กำกับโดย Zack Snyder เริ่มต้นเรื่องโดยการเล่าเรื่องย้อนกลับไปหลายพันปีก่อนที่ Steppenwolf (รับบทโดย Ciarán Hinds) และกองทัพ Parademon ได้พยายามครอบครองโลก โดยใช้พลังของ Mother Box ทั้งสาม แต่ถูกกำราบลงโดยกองทัพฝ่ายโลกซึ่งเป็นการรวมกำลังกันของเหล่าเทพแห่งโอลิมปัส ชาวนักรบแอมะซอน ชาวแอตแลนติส มนุษย์โลก และกองกำลัง Green Lantern Corps หลังจากขับไล่กองทัพของ Steppenwolf ไปได้แล้ว กล่อง Mother Box ก็ถูกแยกออกไปเก็บซ่อนไว้ทั่วโลก

ส่วนในโลกปัจจุบัน เมื่อคนทั้งโลกกำลังเศร้าโศกจากการสูญเสีย Superman (รับบทโดย Henry Cavill) เป็นโอกาสที่ Steppenwolf จะใช้พลังของ Mother Box ทั้งสาม เพื่อทำลายโลกและเปลี่ยนแปลงเป็นโลกใหม่ตามใจตนเอง เขาได้ชิงเอา Mother Box อันแรกจากเมือง Themyscira ได้สำเร็จ Diana Prince / Wonder Woman (รับบทโดย Gal Gadot) จึงไปสมทบกับ Bruce Wayne / Batman (รับบทโดย Ben Affleck) เพื่อช่วยกันฟอร์มทีมซูเปอร์ฮีโร่ขึ้น เพื่อต่อสู้กับศัตรูตัวใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เราจะได้เห็นถึงมุมมองใหม่ของ Bruce ที่เกิดขึ้น หลังจากการเสียสละของ Clark Kent / Superman โดยเขาพยายามชักชวน Arthur Curry / Aquaman (รับบทโดย Jason Momoa) บุรุษแห่งสมุทรที่ปฏิเสธการเข้าร่วมทีมในตอนแรก และ Barry Allen / The Flash (รับบทโดย Ezra Miller) ที่ปากรับคำเข้าร่วมทีมง่ายๆ ปิดท้ายที่การปรากฏตัวของหนุ่มวัยรุ่นผิวสี แม้ Diana จะไม่สามารถชักชวน Victor Stone / Cyborg (รับบทโดย Ray Fisher) ครึ่งคนครึ่งหุ่นเหล็กให้เข้าร่วมได้ แต่ Stone ก็รับปากจะช่วยตามหาตำแหน่งของภัยคุกคาม ซึ่งในเวลาต่อมา Silas Stone (รับบทโดย Joe Morton) ผู้เป็นพ่อ และเจ้าหน้าที่คนอื่นของ S.T.A.R. Labs ถูก Steppenwolf ลักพาตัวไป เขาจึงยินยอมเข้าร่วมเป็นกองทัพเดียวกับ Batman ในที่สุด

ฉากสำคัญที่ถูกถ่ายทำในไอซ์แลนด์ คือฉากที่ Bruce Wayne เดินทางไปยังเมืองชาวประมงเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพื่อตามหา Aquaman มาเข้าทีมซุปเปอร์ฮีโร Justice League ซึ่งถ่ายทำที่หมู่บ้านดจูพาวิก (Djúpavík Village) หมู่บ้านชาวประมงจริงๆ ในฟยอร์ดทางตะวันตก (Westfjords) ของไอซ์แลนด์ Jason Momoa เคยตกเป็นข่าวดราม่าในไอซ์แลนด์ในช่วงที่เขาเล่นซีรีส์ Game of Thrones เนื่องจากได้ลงไปเล่นน้ำในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอนุรักษ์แห่งหนึ่งโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อเขาได้แสดงฉากถอดเสื้อเปลือยท่อนบนใน Justice League จนเกิดกระแสในโลกโซเชียลกลายเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พื้นที่นี้มานักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ชาวไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่จึงให้อภัย Momoa ในที่สุด


4. Prometheus (2012)

กำกับ: Ridley Scott
นำแสดง: Noomi Rapace, Michael Fassbender, Guy Pearce, Idris Elba, Logan Marshall-Green และ Charlize Theron
สถานที่ถ่ายทำ: น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss)
ฉาก: โลกยุคดึกดำบรรพ์ Engineer ได้ดื่มของเหลวดำแล้วกระโดด ลงไปในน้ำตก

Prometheus หรือ โพรมีธีอุส ผลงานที่โด่งดังของ Ridley Scott เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟและปรัช ญา หนึ่งในแฟรนไชส์เอเลี่ยนภาพ ยนตร์ไซไฟสยองขวัญ (Alian Franchise) ที่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิด Alien (1979) โดยเล่าผ่านลูกเรือของยานอว กาศ Prometheus ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบร ิษัท Weyland Industries ของ Peter Weyland (รับบทโดย Guy Pearce) ให้ทำภารกิจในการไขความลับของชีวิต ทีมนักวิทยาศาสตร์และผู้สำรวจบนยาน Prometheus มีทั้งผู้มีความศรัทธา อยากพบกับ “พระเจ้า” อย่าง Elizabeth Shaw (รับบทโดย Noomi Rapace) มีผู้ที่กำลังมองหาข้อหักล้ างความคิดทางศาสนาอย่าง Charlie Holloway (รับบทโดย Logan Marshall-Green) และผู้ที่ทำทุกอย่างเพื่อให ้บรรลุเป้าหมายอย่างหุ่นแอน ดรอยด์ David (รับบทโดย Michael Fassbender) จนในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับ  Engineer หรือ Space Jockey พระเจ้าวิศวกรต่างดาว ผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติ? เมื่อภาพยนตร์จบลง แทนที่จะไขปมปริศนาต้นกำเนิดเอเลี่ยน แต่กลับกลายเป็นว่าได้สร้าง คำถามใหม่ให้ผู้ชมจินตนาการ ต่อหนักยิ่งขึ้นไปอีก!

Prometheus โดดเด่นด้วยงานด้านภาพที่วิ จิตรบรรจงมาก เพราะ Ridley Scott พยายามไม่ใช้เทคนิคภาพ CG แต่ไปเน้นที่การเซ็ตฉากขึ้น มาจริงๆ ทำให้ธรรมชาติที่งดงามของปร ะเทศไอซ์แลนด์ได้เฉิดฉายอีก ครั้ง โดยเฉพาะฉากต้นเรื่องที่เป็ นโลกยุคดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่ยังไม่มีสิ่งมีชีวิต ใดๆ อยู่เลย Engineer ได้ดื่มของเหลวดำแล้วกระโดด ลงไปในน้ำตก เพื่อให้ DNA ของเขาสร้างชีวิตขึ้นบนโลก ซึ่งน้ำตกที่ใช้ในการถ่ายทำ ฉากอลังการนี้มีชื่อว่า น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss) ที่ได้รับการขนานนามว่า “The Beast” หรือเจ้าชายอสูร จากการที่เป็นน้ำตกที่ใหญ่เ เละทรงพลังมากที่สุดในทวีปย ุโรป มีความกว้างกว่า 100 เมตร สูงถึง 44 เมตร และมีปริมาณน้ำที่ไหลตกลงมา มากถึง 193 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เป็นคู่ขวัญของ น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) ที่ได้รับการขนานนามว่า ”The Beauty” หรือโฉมงาน หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุ ดของไอซ์แลนด์ น้ำตกนี้ได้ชื่อว่า “น้ำตกแห่งพระเจ้า” โดย (Goda หมายถึง “God”) เพราะมีนักบวชคนหนึ่งได้ทิ้งรูปสลักพระเจ้าของชาวนอร์ส (Norse) ลงไปในแม่น้ำตกก่อนที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสนั่นเอง)


5. Lara Croft: Tomb Raider (2001)

กำกับ: Simon West
นำแสดง: Angelina Jolie, Jon Voight, Iain Glen และDaniel Craig
ฉาก: หมู่บ้านห่างไกลที่ Lara Croft เริ่มต้นการเดินทางในไซบีเรีย
สถานที่ถ่ายทำ: ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacial Lake)

Tomb Raider ภาคแรก ภาพยนตร์แนวแอกชั่นผจญภัยที่สร้างจากซีรีย์วิดีโอยอดนิยมเป็นภาคแรก โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อ Lara Croft (รับบทโดย Angelina Jolie) ค้นพบนาฬิกาไขลานลึกลับเรือนหนึ่งท่ามกลางข้าวของมากมายที่ Lord Croft (รับบทโดย Jon Voight) พ่อของเธอนำกลับจากซากโบราณเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลังจากที่พบนาฬิกา Lara มีเวลาเพียง 48 ชั่วโมง ก่อนดาวเคราะห์ทั้งหมดจะเรียงตัวเป็นแนวเดียวกันแล้วเกิดพลังสูงสุดในรอบ 5,000 ปี เธอจึงต้องเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา อันเป็นที่ซ่อนของกุญแจสามเหลี่ยมครึ่งชิ้นแรก และไปที่ไซบีเรีย อันเป็นที่ซ่อนของกุญแจสามเหลี่ยมอีกครึ่งชิ้น ก่อนที่กลุ่ม Illuminati จะนำพลังของมันไปใช้เพื่อใช้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของมนุษยชาติ

ผู้กำกับ Simon West ยกกองมาที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacial Lake) ในประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อใช้เป็นตัวแทนของหมู่บ้านห่างไกลในไซบีเรีย ภูมิภาคอันหนาวเย็นของประเทศรัสเซีย เช่นเดียวกับ James Bond: A View to A Kill ต่างกันตรงที่ แอนเจลิน่า โจลี่ เดินทางไปถ่ายทำฉากนี้ที่ไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง ในหนังมีสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ แต่ Lara ใส่เพียงเสื้อตัวจิ๋วและเสื้อกันหนาวบางเบาเท่านั้น เพื่อแสดงให้เป็นว่าเธอแข็งแกร่ง (และเซ็กซี่) กว่าคนปกติหลายเท่า แต่ในชีวิตจริงผมขอแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมเพื่อชมความสวยงามของทะเลสาบธารน้ำแข็งแห่งนี้อย่างเต็มอรรถรสดีกว่านะครับ เพราะในสถานที่จริงนั้นหนาวเหน็บจนไม่มีคนอยู่อาศัยเลยทีเดียว

คุณอาจได้พบกับ นกทะเล Skúas นกทะเลสีน้ำตาลตระกูลนกนางนวล Stormmáfur หรืออาจจะได้เห็นแมวน้ำ Selur ที่ดำผุดดำว่าย เล่นน้ำบริเวณตอนปลายของโจกุลซาลอนที่เชื่อมต่อกับทะเลอีกด้วย


6. James Bond: A View to A Kill (1985)

กำกับ: John Glen
นำแสดง: Roger Moore, Lois Maxwell และ Christopher Walken
สถานที่ถ่ายทำ: ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacial Lake)
ฉาก: James Bond สกีหนีไปตามแนวเขา และลงมาขึ้นเรือดำน้ำออกสู่ทะเล

หลังจากที่ถูกมองข้ามมานาน ในที่สุดหนังฮิตเรื่องแรกที่มีไอซ์แลนด์เป็นฉากหลังได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1984 นั่นก็คือ A View to a Kill หรือ 007 พยัคฆ์ร้ายพญายม หนังเรื่องที่ 14 ในชุดเจมส์ บอนด์ซีรีส์ (James Bond Series) ในหนังเรื่องนี้ไอแลนด์ได้รับบทเป็นพื้นที่หนาวเหน็บในประเทศรัสเซีย ซึ่งได้ถ่ายทำที่ทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacial Lake) ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ เกิดจากน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวลงมาจากธารน้ำแข็งด้านบน ไหลลงมารวมกันก่อนออกสู่ทะเล และค่อยๆ ขยายตัวเพิ่มพื้นที่ขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันกินพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำถึง 200 เมตร ถือได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่่ลึกเป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์

ทีมงานใช้เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำพร้อมกับเรือที่สร้างขึ้นมาพิเศษเพื่อถ่ายทำฉากที่ James Bond (รับบทโดย Roger Moore) ใช้สกีหนีไปตามแนวเขาลงมาที่ทะเลสาบ ทันใดนั้นเองเฮลิคอปเตอร์รัสเซียได้เข้ามาประชิดตัว! เขาจึงยิงพลุไฟธรรมดาเข้าไปในห้องบังคับ ทำให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมแล้วชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง!! ก่อนที่เขาจะวิ่งไปขึ้นเรือที่ปลอมตัวเป็นก้อนน้ำแข็งยักษ์!!! (อ่านที่ผมบรรยายอาจจะดูตลก แต่ถ้าได้ดูหนังจริงจะรู้ว่านี่คือแหละฉากแอ็คชั่นตามสไตล์ James Bond แท้ๆ เลย) ฉากนี้ถือว่าเป็นฉากมีความเสี่ยงต่อตัวนักแสดงมาก เพราะในระหว่างถ่ายทำอาจพลาดท่ากระแทกกับก้อนน้ำแข็งแหลมคมหรือตกลงไปในน้ำเย็นจัดได้ตลอดเวลา (ในปัจจุบันฉากที่มีความเสี่ยงแบบนี้แทบจะมีการไม่ถ่ายทำในสถานที่จริงแล้ว) ในเรื่องนี้โรเจอร์ มัวร์จึงไม่ได้ก้าวเท้าเข้ามาในไอซ์แลนด์เลย มีเพียงแค่สตั๊นตัวแทนที่เข้ามาถ่ายทำฉากนี้


7. James Bond: Die Another Day (2002)

กำกับ: Lee Tamahori
นำแสดง: Pierce Brosnan, Halle Berry และ Rick Yune
สถานที่ถ่ายทำ: ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacial Lake)
ฉาก: James Bond ขับรสหนีการไล่ล่าไปบนทะเลสาบน้ำแข็ง

Die Another Day หรือ 007 พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะ หนังเรื่องที่ 20 ในชุด James Bond Serie คืออีกเรื่องที่ได้ใช้ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacial Lake) ในการถ่ายทำโดยในภาคนี้ได้เพิ่มความโหดของการไล่ล่าขึ้นอีกขั้น James Bond (รับบทโดย Pierce Brosnan) ขับแอสตันมาร์ตินส์เวอร์ชั่นไฮเทค (Aston Martin V12 Vanquish) หนีการไล่ล่าของรถจากัวร์ติดอาวุธไปบนทะเลสาบน้ำแข็ง! ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วรถทั้งหมด 8 คัน ที่ใช้ในการถ่ายทำจะถูกดัดแปลให้ขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ด้วยฉากที่การไล่ล่าที่ดุเดือด (มีฉากที่รถของเจมส์ บอนด์หงายท้องแล้วดีดตัวเองกลับขึ้นมาวิ่งได้ปกติด้วย เอาสิ!) ทำให้ต้องสังเวยรถหรูไปหลายคันในระหว่างการถ่ายทำ และแน่นอนว่าเพียร์ซ บรอสแนนก็ไม่ได้แตะประเทศนี้ เช่นเดียวกับโรเจอร์ มัวร์ ใน A View to A Kill

นองจากทีมงานจะต้องดัดแปลงรถเพื่อใช้นัการถ่ายทำแล้ว ยังต้องทำให้ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งเองด้วย!! เพราะโจกุลซาลอนเชื่อมต่อมหาสมุทร มีการผสมผสานกันระหว่างน้ำเค็มและน้ำจืด นอกจากจะทำให้สีของน้ำออกเป็นสีเขียวน้ำเงินสวยสดงดงามแล้ว ยังส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศอยู่ตลอดเวลา ทีมงานได้สร้างเขื่อนกั้นทางออกสู่ทะเล น้ำจึงนิ่งและทำให้น้ำแข็งหนาเพียงพอที่จะถ่ายฉากขับรถไล่ล่าได้สำเร็จ หลังถ่ายทำเสร็จสิ้นทีมงานได้ปลดเขื่อนนี้ออกกระแสน้ำและเกลือทะเลก็ได้ละลายน้ำแข็งบนพื้นผิวกลับมาในสภาพปกติ โดยไม่เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อม และท้ายเรื่องได้ให้เครดิตว่าถ่ายทำในประเทศไอซ์แลนด์เกือบทั้งหมดด้วย แม้ว่าโรงแรมน้ำแข็งในหนังจะไม่ได้มีอยู่จริงก็ตาม (ถึงประเทศนี้จะชื่อไอซ์แลนด์ แต่ไม่ได้หนาวเป็นน้ำแข็งตลอดปีนะจ๊ะ)


8.The Tree of Life (2011)

กำกับ: Terrence Malick
นำแสดง: Brad Pitt, Sean Penn และ Jessica Chastain
สถานที่ถ่ายทํา: รอบๆ ทะเลสาบมิวัทน์ (Myvatn)
ฉาก: การกําเนิดของโลก

ไม่ได้มีเฉพาะหนังแอคชั่นผจญภัยเท่านั้นที่เข้ามาถ่ายทำในไอซ์แลนด์ แต่ภาพยนต์ดราม่าเชิงปรัชญาอย่าง The Tree of Life หรือ ต้นไม้แห่งชีวิต ผลงานของผู้กำกับ Terrence Malick ก็ได้แสดงให้เราได้เห็นอีกมุมมองที่ไอซ์แลนด์สามารถเล่าเรื่องออกมาได้ The Tree of Life เป็นเรื่องเกี่ยวกับความหมายของชีวิต และถามถึงการมีอยู่ของ “พระเจ้า” โดยเล่าเรื่องผ่าน ครอบครัว O’Brien ครอบครัวเล็กๆ ฐานะปลานกลางในปี 1950 โดยครอบครัวนี้ประกอบด้วยพ่อ Mr. O’Brien (รับบทโดย Brad Pitt) แม่ Mrs. O’Brien (รับบทโดย Jessica Chastain) และลูกชายทั้ง 3 คน แต่ Jack ไม่เคยจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อพร่ำสอนกับเขาเลย ในขณะที่แม่ผู้อ่อนโยน คอยปลอบใจ และให้อภัยเสมอ ก็ไม่มีท่าทีคัดค้าน ดูจะยินยอมพร้อมใจกับวิธีการเลี้ยงดูแบบนี้ แต่เมื่อตัวของ Jack เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ (รับบทโดย Sean Penn) เขาก็ได้ระลึกได้ว่าครอบครัวของเขานั้นให้อะไรกับเขามากกว่า ความรัก

หนังเรื่องนี้ต้องการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ “ชีวิต” จึงทำให้การเล่าเรื่องนั้นสลับซับซ้อน ไม่ต่างอะไรจากชีวิตมนุษย์ แต่จรรโลงใจด้วยภาพสุดอลังการ แสดงให้เราเห็นการกำเนิดของโลก การเริ่มต้นของชีวิต ภาพธรรมชาติอันสวยงามประกอบกับเสียงเพลงอันวิจิตรบรรจง เพื่อสื่อสารว่าชีวิตที่พบเจอปัญหาไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้น ชีวิตในธรรมชาติก็ต่างพบปัญหาเช่นเดียวกับที่มนุษย์ต้องเจอ การถ่ายทำเกิดขึ้นรอบๆ ทะเลสาบมิวัทน์ (Mývatn) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต ส่งผลให้รอบๆ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากความร้อนใต้พิภพหลายแห่ง เช่น บ่อกำมะถันหลากสี (Hverarönd) บริเวณแหล่งความร้อนใต้พิภพที่มีบ่อโคลนร้อนเล็กใหญ่หลายบ่อและเต็มไปด้วยผลึกกำมะถัน เนามาฟยาล (Námafjall) และปากปล่องภูเขาไฟคราฟา (Krafla) มีทะเลสาบน้ำเป็นสีฟ้ามรกตที่งดงามอยู่ตรงปากปล่อง มีความสูง 818 เมตร มีความลึก 2 กิโลเมตร และหลุมปล่องภูเขาไฟมีรัศมี 10 กิโลเมตร ปะทุครั้งล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 1984 รวมถึงหินลาวาหน้าตาแปลกประหลาด (Dimmuborgir) แปลว่า ปราสาทมืด (Dark Castle) เป็นทุ่งลาวาขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทับถมหลอมรวมกันของลาวากลายเป็นแท่งและก้อนหน้าตาประหลาดมากมายด้วย ฉากเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการสร้างโลก ดาวเคราะห์ รวมถึงการกำเนิดและวิวัฒนาการของชีวิตบนโลก เนื่องจากตัวเกาะมีอายุไม่เกิน 18 ล้านปี ถือว่าเป็นดินแดนที่มีอายุน้อยมากในทางธรณีวิทยา ไอซ์แลนด์จึงเป็นตัวแทนของ ‘โลกใหม่’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


9. Batman Begins (2005)

กำกับ: Christopher Nolan
นำแสดง: Christian Bale, Michael Caine, Liam Neeson และKatie Holmes
สถานที่ถ่ายทำ: ธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull Glacier)
ฉาก: Henri Ducard สอนต่อสู้ฟันดาบให้ Bruce Wayne บนธารน้ำแข็งในภูฏาน

Batman Begins หรือ แบทแมน บีกินส์ เป็นภาคแรกของหนังไตรภาคแบทแมน (Batman Trilogy) ที่กำกับโดย Christopher Nolan ภาคนี้เป็นเริ่มต้นเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปตั้งแต่ในอดีตก่อนที่ทายาทมหาเศรษฐีจะกลายเป็นอัศวินรัตติกาล Bruce Wayne (รับบทโดย Gus Lewis) ในวัย 8 ขวบ เกิดความกลัวตัวละครคล้ายค้างคาวขณะชมละครเวทีจึงเร่งเร้าให้พ่อแม่พาเขากลับบ้าน แต่ระหว่างที่เดินออกจากโรงละครพ่อและแม่ของเขาก็ถูกสังหารโดยโจรจี้ปล้น ทำให้ Wayne โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อแม่ของเขาต้องตาย หลายปีต่อมา หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน Bruce Wayne (รับบทโดย Christian Bale) ก็พบว่าเมืองกอตแทมเต็มไปด้วยอาชญากรรม Wayne จึงตัดสินใจที่จะเดินทางสู่โลกกว้างเพื่อค้นหาวิถีในการต่อสู้กับความอยุติธรรมเป็นเวลานานหลายปี ก่อนที่เขาจะกลับมาสู่เมืองกอตแทม(Gotham City) อีกครั้งในฐานะ Batman ผู้ที่คอยปกป้องเมืองจากเหล่าร้ายอย่างลับๆ ในยามค่ำคืน

สิ่งที่น่าแปลกใจคือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ถูกใช้เป็นตัวแทนของภูฏานในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เห็นว่าประเทศนี้มีภูมิทัศน์หลากหลายเพียงใด โดยในภาพยนตร์ Wayne ได้พบกับ Henri Ducard (รับบทโดย Liam Neeson) ในคุกภูฏาน ซึ่งชักชวนให้เขาเข้าร่วมกับกลุ่มศาลเตี้ยที่ชื่อ League of Shadows ที่มีหัวหน้ากลุ่มที่ชื่อ Ra’s al Ghul เขาได้รับการต้อนรับจากกลุ่มอย่างดี โดยมี Ducard เป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอนวิชาการสู้รบจนสามารถขจัดความกลัวในวัยเด็กออกไปได้ หนึ่งในฉากที่น่าจดจำคือการต่อสู้ฟันดาบบนธารน้ำแข็ง ซึ่งถ่ายทำที่ธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull Glacier) อยู่ในเขตอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติ Skaftafell เป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปซึ่งครอบคลุม 8% ของผืนดินทั้งหมดในไอซ์แลนด์ มีอายุประมาณ 1000 ปี ถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์มากมายจนได้ชื่อเล่นว่า Hollywood Glacier เลยทีเดียว (นักแสดงได้บอกกับนักข่าวว่าพวกเขาได้ยินเสียงแตกจากใต้น้ำแข็งขณะที่พวกเขากำลังถ่ายทำฉากนี้ด้วย!)


10.The Fifth Estate (2013) วิกิลีกส์ เจาะปมลับเขย่าโลก (2013)

สถานที่: บลูลากูนและเรคยาวิก

ภาพยนต์อีกเรื่องที่ใช้บลูล ากูนเป็นฉากหลังคือเรื่องวิ กิลีกส์ เจาะปมลับเขย่าโลก (The Fifth Estate) วิกิลีกส์ (WikiLeaks) ได้พบกับจูเลียน อาสซานจ์ (Julian Assange) และเพื่อนร่วมงานของเขาที่เ ดินเล่นไปตามถนนของเมืองเรค ยาวิกและประเทศไอซ์แลนด์ก็ได้เป็นประเทศไอซ์แลนด์จริงๆ  เพราะพวกเขาได้ถ่ายให้เห็นธนาคารของประเทศไอซ์แลนด์

ภาพนิ่งด้านล่างเป็นภาพจากจัตุรัสเอยส์ทูร์โวลูร์ (Austurvöllur) ตรงใจกลางเมืองเรคยาวิก คุณจะได้ยินเกี่ยวกับประวัต ิศาสตร์ของเรคยาวิกใน ทัวร์ขี่จักรยานชมเมืองเรคยาวิก


11. Star Wars: The Force Awakens (2015)

กำกับ: Darren Aronofsky
นำแสดง: Daisy Ridley, Adam Driver, John Boyega, Oscar Isaac, Carrie Fisher, Harrison Ford และ Mark Hamill
สถานที่ถ่ายทำ: ภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajokull)
ฉาก: ฐานทัพสตาร์คิลเลอร์ (Starkiller Base)

Star Wars: The Force Awakens หรือ สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง เป็นเรื่องราวหลังจากเหตุกา รณ์ใน Star Wars: Return of the Jedi (1983) มาได้ประมาณ 30 ปี (เวลาในเรื่องกับเวลาจริงใกล้เคียงกันมาก) หลังการทำลายดาวมรณะ (Death Star) ดวงที่สอง กองกำลังปฐมภาคี (First Order) ที่ก่อตั้งจากจักรวรรดิในอดีต (Galactic Empire) เริ่มหาทางกำจัดสาธารณรัฐใหม่ (New Republic) เพื่อสร้างอำนาจให้ตัวเองอี กครั้ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ Luke Skywalker (รับบทโดย Mark Hamill) เจไดคนสุดท้ายได้หายตัวไป เจ้าหญิง/ นายพลหญิง Leia Organa Solo (รับบทโดย Carrie Fisher) น้องสาวฝาแฝดของ Luke จึงได้ตั้งฝ่ายต่อต้าน(Resistance) ขึ้นเพื่อต่อสู้กับฝ่ายปฐมภาคีและตามหา Luke ให้เจอ

วันหนึ่ง นักบินของฝ่ายต่อต้าน Poe Dameron (รับบทโดย Oscar Isaac) ถูกกองทัพภายใต้บังคับบัญชา ของ Kylo Ren (รับบทโดย Adam Driver) โจมตีและจับตัวไป ขณะทำภารกิจตามหาแผนที่ตำแหน่งของ Luke แต่โชคดีที่ดรอยด์ BB-8 ของ Poe หลบหนีไปได้พร้อมกับแผนที่ และเจอกับ Rey (รับบทโดย Daisy Ridley) หญิงสาวตัวคนเดียวที่ทำอาชีพเก็บของเก่าขาย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ สตอร์มทรูปเปอร์ (Stormtrooper) FN-2187 หรือ “Finn” (รับบทโดย John Boyega) ซึ่งไม่สามารถฆ่าคนตามคำสั่งปฐมภาคี จึงพา Poe หลบหนีออกมาในเครื่องบินขับ ไล่ แต่ดูเหมือนว่า Finn รอดชีวิตจากการหลดหนีแค่คนเดียว เขาพบกับ Rey และ BB-8 และขโมยยาน Millennium Falcon เพื่อหลบหนี จึงได้พบกับตำนานที่มีชีวิต อย่าง Han Solo (รับบทโดย Harrison Ford) และ Chewbacca (รับบทโดย Peter Mayhew) พวกเขาเดินทางไปดาวเคราะห์ท ักโคดานา (Takodana) และพบเจ้าของบาร์ Maz Kanata (รับบทโดย Lupita Nyong’o) ซึ่งสามารถช่วยซ่อม BB-8 ได้ ส่วน Rey ถูกดึงดูดสู่ห้องเก็บของใต้ ดินและพบไลท์เซเบอร์ (Lightsaber) ซึ่งเป็นของ Luke และ Anakin Skywalker เธอได้เห็นนิมิตและได้ค้นพบ ว่าตัวเองสามารถใช้พลังเจได ได้ ทุกคนจึงเหมือนตกกระไดพลอยโจนมาช่วยฝ่ายต่อต้านต่อสู้กับปฐมภาคี

ทั้งนักแสดงดั้งเดิมและนักแสดงใหม่ ได้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกสนานและน่าจดจำโดนใจแฟนๆ  ภาพยนตร์ Star Wars ที่รอการกลับมานานหลายปี ถึงแม้ว่าการถ่ายทำนั้นถูกป กปิดเป็นความลับ แต่ก็ได้มีรายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่นที่พบเห็นการถ่าย ทำเกิดขึ้นภายในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งฉากที่เห็นได้ชัดเจนที่ สุดคือฉากฐานทัพสตาร์คิลเลอร์ (Starkiller Base) ที่สร้างโดยปฐมภาคี มีขนาดใหญ่กว่าดาวมรณะมากๆ และมีความแตกต่างตรงที่ดาวม รณะเป็นเหมือนสถานีอวกาศรูป ดาว ที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่สตาร์คิลเลอร์นี้เป็นการ นำดาวเคราะห์จริงมาแปลงเป็น อาวุธขนาดมหึมา ในส่วนที่เป็นพื้นผิวดวงดาว อันหนาวเย็นนี้เองที่ถ่ายทำ ที่ภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajokull) เป็นพื้นที่ที่มีครอบน้ำแข็งปกคลุมทั่วบริเวณ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซแลนด์นั้นเอง (สตาร์คิลเลอร์ดึงพลังงานจากดาวฤกษ์มาใช้พลังงานนี้สามารถทำลายดาวเคราะห์ได้หลายดวงในครั้งเดียว ทำให้มันน่ากลัวกว่าดาวมรณะ หลายเท่า แต่มีข้อเสียคือต้องใช้เวลา ในการสกัดพลังงานให้นานเพีย งพอ)


12. Rogue One: A Star Wars Story (2016)

กำกับ: Gareth Edwards
นำแสดง: Felicity Jones, Diego Luna, Ben Mendelsohn, Donnie Yen, Mads Mikkelsen และ Alan Tudyk
สถานที่ถ่ายทำ: ดาวเคราะห์ลามูห์ (Lah’mu) ที่ครอบครัว Erso ใช้หลบซ่อนจากจักรวรรดิ (Galactic Empire)
ฉาก: มิร์ดาลสซานดูร์ (Myrdalssandur) ทางตะวันออกของหมู่บ้านวิก(Vik)

Rogue One: A Star Wars Story หรือ โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส ภาพยนตร์ภาคแยกเดี่ยวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มตำนานและขยายจักรวาลแฟรนไชส์สตาร์ วอร์ส (Star Wars Franchise) ของ Lucasfilm (ในมือ Disney) ให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น กำกับโดย Gareth Edwards โดยเป็นเรื่องราวของภารกิจจารกรรมแปลนดาวมรณะ ที่เคยถูกพูดถึงในบทเกริ่นนำของ Star Wars: New Hope (1977) เท่านั้น แต่แท้จริงแล้วมันเต็มไปด้วยรายละเอียดสุดเข้มข้น เมื่อข่าวการสร้างอาวุธที่มาพร้อมพลังทำลายล้างสูงในรูปของยานอวกาศขนาดมหึมานามว่า “ดาวมรณะ (Death Star)” ได้สร้างความหวั่นเกรงไปทั่วกาแล็กซี ทำให้กลุ่มพันธมิตรกบฏ (Rebel Alliance) ที่มี Mon Mothma (รับบทโดย Genevieve O’Reilly) หัวหน้าสภาสูงเป็นผู้นำ ต้องหาวิธีหยุดยั้งมัน ประจวบเหมาะกับที่ กัปตัน Cassian Andor (รับบทโดย Diego Luna) ทหารมากฝีมือของฝ่ายกบฏช่วย Jyn Erso (รับบทโดย Felicity Jones) สาวห้าวหัวขบถ ที่เต็มไปด้วยคดีติดตัว ออกมาจากคุกจักรวรรดิ และพาตัวไปยังดาวที่ซ่อนตัวของกลุ่มพันธมิตรกบฏ Jyn จึงได้เปิดเผยกับกลุ่มพันธมิตรกบฏว่าพ่อของเธอเป็นวิศวกรที่ถูกบังคับให้สร้างดาวมรณะขึ้นมา แต่ได้วางจุดอ่อนเอาไว้ข้างใน จึงทำให้ Jyn, Cassian และเพื่อนกบฏยอดฝีมือ ต้องรวมทีมกัน เพื่อปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายที่แทบจะไม่มีโอกาสสำเร็จ อย่างการลอบขโมยแปลนของดาวมรณะ โดยนำยานขนส่งชื่อ Rogue One ที่ยึดมาจากฝ่ายจักรวรรดิมาใช้เป็นความหวังสุดท้าย ด้วยความที่ตัวละครหลักของ Rogue One เป็นคนธรรมดาล้วนๆ ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การเสียสละเพื่อครอบครัวและบ้านเกิด มีความความดราม่ามากกว่าแฟนตาซี ถือว่าเป็นหนัง Star Wars ที่มีความเป็นหนังสงครามสูงที่สุดเลยก็ว้าได้

ประเทศไอซ์แลนด์ถูกใช้เป็นฉากของดาวเคราะห์ลามูห์ (Lah’mu) ใน Rogue One ซึ่งเป็นสถานที่ที่ Galen Erso (รับบทโดย Mads Mikkelsen) วิศวกรผู้ปราดเปรื่องของสาธารณรัฐ, Lyra Erso (รับบทโดย Valene Kane) ภรรยา และJyn Erso (รับบทโดย Dolly Gadsdon) ในวัย 4 ขวบ ได้ใช้หลบซ่อนจาก Orson Krennic (รับบทโดย Ben Mendelsohn) ผู้อำนวยการคุมกองกำลังฝ่ายสร้างอาวุธของจักรวรรดิ (Galactic Empire) และลูกน้องเหล่าเดธทรูปเปอร์ (Death Troopers) ที่มาพบเข้าในตอนต้นของเรื่อง ชายหาดสีดำนี้สามารถพบได้ในตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ซึ่งก็คือที่มิร์ดาลสซานดูร์ (Myrdalssandur) และที่ราบสูงสีเขียวสวยงามเหนือทรายดำคือฮเยือเลิร์ฟเฮิฟดิร์ (Hjorleifshofdi) และฮาฟุซเอย์ (Hafursey) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของหมู่บ้านวิก(Vik) นั่นเอง


13. Noah (2014)

กำกับ: Darren Aronofsky
นำแสดง: Russell Crowe, Jennifer Connelly, Emma Watson, Ray Winstone, Finn Wittrock และ Logan Lerman
สถานที่ถ่ายทำ: ทั่วประเทศไอซ์แลนด์
ฉาก: เกือบทุกฉาก

Noah หรือ โนอาห์ มหาวิบัติวันล้างโลก เป็นภาพยนตร์อิงพระคัมภีร์ไบเบิล กำกับและร่วมเขียนบทโดย Darren Aronofsky โดยอิงจากเรื่องของเรือโนอาห์ในคัมภีร์ ว่าด้วยพระประสงค์แห่งพระผู้เป็นเจ้าที่พยากรณ์ว่าจะถึงวันสิ้นโลก น้ำจะท่วมทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ไม่มีใครเลยที่เชื่อในคำเตือนอันตรายนี้ มีเพียงแต่ Noah (รับบทโดย Russell Crowe) ผู้ได้รับนิมิตจากพระเจ้าเท่านั้น ที่ยังมีศรัทธาอันคงมั่น เขาและครอบครัวจึงได้สร้างเรือขนาดมโหฬาร ก่อนที่โลกจะพบกับมหาวิบัติน้ำท่วมโลก แม้จะมีเสียงจากนักวิจารณ์ไปในเชิงลบ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศไป 43.7 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และเนื่องจากประเทศไอซ์แลนด์เป็นเป็นพื้นแผ่นดินเกิดใหม่ ทีมงานจึงเห็นว่าที่นี่เหมาะสมสำหรับการถ่ายทำ เป็นตัวแทนเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่กำเนิดโลก ไม่ว่าจะเป็นชายหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ (Kleifarvatn) ถ้ำเรยฟาร์โฮลเฮลลิร์ (Raufarholshellir) รวมทั้งทะเลสาบมิทวาน์ท (Mývatn) ด้วย


14. The Fate & Furious (Fast 8)(2017)

กำกับ: F. Gary Gray
นำแสดง: Vin Diesel, Dwayne Johnson, Jason Statham, Michelle Rodriguez และ Tyrese Gibson
สถานที่ถ่ายทำ: ทะเลสาบมิวัทน์ (Myvatn)
ฉาก: รถจำนวนมากกำลังหนีการไล่ล่าของเรือดำน้ำรัสเซียไปบนทะเลสาบน้ำแข็ง

The Fate of the Furious (Fast 8) หรือ เร็ว..แรงทะลุนรก 8 เป็นภาพยนตร์แอคชั่นอาชญากรรมที่พัฒนามาจากหนังแข่งรถในชุด เดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส(The Fast of the Furious Series) กำกับโดย F. Gary Gray เนื้อเรื่องดำเนินต่อจากภาค Fast & Furious 7 หลังจาก Dominic Toretto (รับบทโดย Vin Diesel) และทีมได้ Ramsey (Nathalie Emmanuel) มาเป็นพวก พวกเขาก็รับงานให้กับหน่วยงานลับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งมีผู้หญิงชื่อ Cipher (รับบทโดย Charlize Theron) มาหา Dom และบังคับให้เขาทำงานให้ เขาจึงได้ทรยศทีมและหายตัวไป แต่ลูกทีมของ Dom คิดว่าต้องมีเหตุผลบางอย่างในการกระทำของเขา ในระหว่างนั้น Luke Hobbs (รับบทโดย Dwayne Johnson) ถูกจับเข้าเรือนจำเดียวกับ Deckard Shaw (รับบทโดย Jason Statham) ทั้งคู่จึงตัดสินใจกันรวมหัวแหกคุกหาความจริง Deckard กล่าวว่า น้องเขาได้รับการว่าจ้างจาก Cipher และ Dom น่าจะตกในสถานการณ์เดียวกัน Hobbs จึงรร่วมกับลูกทีมของ Dom และ Mr. Nobody (รับบทโดย Kurt Russell) ในการตามล่า Cipher

หนึ่งในฉากขับรถไล่ล่าอันยิ่งใหญ่ที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำจริงที่ทะเลสาบมิวัทน์ (Myvatn) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต ส่งผลให้รอบๆ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากความร้อนใต้พิภพหลายแห่ง แต่ในภาพยนต์ได้ชมซูเปอร์คาร์ที่กำลังทะยานไปบนทะเลสาบน้ำแข็ง! และถูกไล่ล่าด้วยเรือดำน้ำรัสเซีย!! ซึ่งฉากนี้เองที่ทำให้ Fast 8 ทำรายได้เปิดตัว 542 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดทั่วโลกเป็นอันดับที่ 3 และอันดับที่ 17 ของภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุด จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทางค่ายจะรีบเข็นภาคต่อของแฟรนไชส์นี้ออกมาให้ได้ชมกันอย่้างรวดเร็วในปี 2020
(นอกจากนี้ปัจจุบันพื้นที่รอบทะเลสาบมิวัทน์ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาพันธุ์ในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย)


15. Oblivion (2013)

กำกับ: Joseph Kosinski
นำแสดง: Tom Cruise, Morgan Freeman, Olga Kurylenko, Andrea Riseborough, Melissa Leo และ Nikolaj Coster-Waldau
สถานที่ถ่ายทำ: ปล่องภูเขาไฟฮรอสซาเบิร์ก (Hrossaborg Crater) และภูเขาจาร์ลเฮททูร์ (Jarlhettur)
ฉาก: Jack Harper ซ่อมหุ่นโดรนที่ตกอยู่กลางซากสนามกีฬา และหยุดพักเพื่อรดน้ำดอกไม้ริมผา

Oblivion หรือ อุบัติการณ์โลกลืม หนังไซไฟที่กำกับโดย Joseph Kosinski ซึ่งได้นำนิยายภาพของตนเองมาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ เรื่องราวของ Oblivion เกิดขึ้นในโลกอนาคตหลังการล่มสลาย เมื่อโลกมนุษย์พังทลายกลายเป็นพื้นที่รกร้างกลับสู่สภาพก่อนที่จะมีมนุษย์อาศัยอยู่ มีธรรมชาติงดงามแต่ก็เต็มไปด้วยกัมมันตรังสีไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป มนุษย์ส่วนใหญ่ต้องพากันละทิ้งโลกและย้ายไปยังไททัน ดวงจันทร์ของดาวเสาร์ แต่ยังมี Jack Harper (รับบทโดย Tom Cruise) และ Vika Olsen (รับบทโดย Andrea Riseborough) มนุษย์คู่สุดท้ายที่ถูกส่งลงมายังพื้นโลกเพื่อภารกิจตรวจตราและซ่อมแซมหุ่นยนต์โดรน (ยานรบขนาดย่อมที่ถูกใช้เพื่อปกป้องขั้นตอนการสูบน้ำส่งไปยังดาวไททัน) ภารกิจของพวกเขาใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อ Jack ได้พบซากยานอวกาศที่ตกลงมา พร้อมกับสาวสวยที่รอดชีวิตมากับยานลำนั้น เธอคือ Julia Rusakova (รับบทโดย Olga Kurylenko) Jack ช่วยชีวิตเธอไว้พร้อมๆ กับคำถามบางอย่างที่เขาสงสัยมาตลอดเริ่มแจ่มชัดขึ้น แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป การผจญภัยและอันตรายที่แม้จินตนาการก็ไม่อาจคาดเดาได้

ถ้าดูจากโปสเตอร์อาจะคิดว่า Oblivion เป็นหนังไซไฟผจญภัย แต่เมื่อได้ดูแล้วจะพบว่ามันมีฉากแอ็คชั่นน้อยมาก เพราะจริงๆแล้วมันเป็นพันธ์ผสมที่มีความเป็นหนังไซไฟ ผสมหนังดราม่าความรัก และผสมหนังปรัชญาความหมายของชีวิตเข้าด้วยกัน ผ่านการดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป (หรือก็คือค่อนข้างเนิบนาบนั้นเอง) แต่ด้วยองค์ประกอบที่ดี เช่น บทบาทของตัวละครที่น่าติดตาม งานออกแบบที่ดูดี ดนตรีประกอบที่ไพเราะ และฉากธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ Oblivion มีความแตกต่าน่าสนใจ โดยเฉพาะการถ่ายทำที่ประเทศไอซ์แลนด์ที่ช่วยรังสรรค์ภาพโลกที่ล่มสลายได้สมจริง เหมือนกลับมาสู่ยุคดึกดำบรรพอีกครั้ง เช่น ปล่องภูเขาไฟฮรอสซาเบิร์ก (Hrossaborg Crater) เป็นปล่องภูเขาไฟหินสโคเรีย (Scoria) อายุ 10,000 ปี ชื่อของมันมีความหมายว่า “ปราสาทม้า” เพราะมีรูปร่างคล้ายอัฒจันทร์นั้นเอง ในเรื่องจึงถูกใช้เป็นซากของเมทไลฟ์ สเตเดียม (MetLife Stadium) สนามกีฬาหลักของทีมนิวยอร์ก ไจแอนส์ และนิวยอร์ก เจ็ต ที่โดนระเบิดนิวเคลียร์ถล่ม และภูเขาจาร์ลเฮททูร์ (Jarlhettur) ส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) หรือ “ธารน้ำแข็งยาว” ธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไอซ์แลนด์ ที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำในฉากที่ Jack หยุดพักเพื่อชมวิวและรดน้ำดอกไม้ ซึ่งเป็นฉากที่โดงดังที่สุดและถ่ายทำยากที่สุดในเรื่องนี้ด้วย เพราะภูเขาจาร์ลเฮททูร์สามารถเข้าถึงได้โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เท่านั้น (การถ่ายทำเริ่มขึ้นที่ประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูร้อนมีแสงแดดตลอด 24 ชั่วโมง จึงสามารถใช้เวลาในการถ่ายทำไปเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น)


16. Flags of our Fathers (2006)

กำกับ: Clint Eastwood
นำแสดง: Ryan Phillippe, Adam Beach, Jesse Bradford, Neal McDonough, Barry Pepper, Robert Patrick และ Paul Walker
สถานที่ถ่ายทํา: หาดแซนด์วิค (Sandvik Beach)
ฉาก: การสู้รบบนเกาะอิโวจิมา (Battle of Iwo Jima)

ภาพยนตร์เรื่อง Flags of our Fathers หรือ สมรภูมิศักดิ์ศรี ปฐพีวีรบุรุษ ผลงานกำกับของ Clint Eastwood เป็นหนังสงครามมองต่างมุม ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้บนเกาะอิโวจิมา (Battle of Iwo Jima) สมรภูมิโหดของสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II) โดยเล่าผ่านภาพถ่ายของ 6 ทหารอเมริกัน ที่กำลังปักธงชาติสหรัฐฯ บนยอดเขาสุริบาชิ (Mount Suribachi) ถ่ายโดยโจเซฟ จอห์น โรเซนธัล (Joseph John Rosentha) ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่ทรงอิทธิพลที่สุดตลอดกาลและกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของสหรัฐอเมริกา ทหารผู้ปักธงบางคนอาจเสียชีวิตหลังจากถูกถ่ายภาพประวัติศาสตร์นี้ได้ไม่นาน แต่คนที่รอดชีวิตมาก็ได้ไม่รื่นรมณ์กับความเป็นวีรบุรุษที่ประเทศมอบให้ พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การปักธงตามหน้าที่ แต่ดันที่มาถูกที่ถูกเวลาสร้างแรงขับเคลื่อนครั้งยิ่งใหญ่ให้อเมริกันชน ทำให้พวกเขาต้องปั้นหน้ายิ้มเดินสายขายพันธบัตร แทนที่จะได้ร่วมกับเหล่าเพื่อนทหารที่กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ที่แนวหน้า (สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน เขียนโดย James Bradley บุตรชายของ John Bradley หนึ่งในทหารที่ปักธง)

ไอซ์แลนด์มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ประมาณหนึ่งในสามของภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ หาดแซนด์วิค (Sandvik Beach) หาดทรายสีดำที่อยู่บริเวณคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเกาะอิโวจิมา (Iwo Jima Island) ในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งในบริเวณคาบสมุทรเรคยาเนสนี้มีทุ่งลาวาขนาดใหญ่และพลังงานความร้อนไหลเวียนอยู่ใต้พื้นดิน ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักผ่อนที่สระน้ำร้อนบลูลากูน(Blue Lagoon) สปาน้ำแร่เพื่อสุขภาพอันโด่งดัง นอกจากนั้นยังมีสะพานเชื่อมทวีป (Leif the Lucky bridge) บริเวณรอยแยกอาลฟาก์จา (Alfagja Rift Valley) ซึ่งเป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกทวีปยุโรปและอเมริกาเหนืออีกด้วย


17. Letters from Iwo Jima (2006)

กำกับ: Clint Eastwood
นำแสดง: Ken Watanabe, Kazunari Ninomiya, Tsuyoshi Ihara, Ryo Kase และ Shidou Nakamura
สถานที่ถ่ายทํา: หาดแซนด์วิค (Sandvik Beach)
ฉาก: การสู้รบบนเกาะอิโวจิมา (Battle of Iwo Jima)

Letter from Iwo Jima หรือ จดหมายจากอิโวจิมา ยุทธภูมิสู้แค่ตาย ผลงานกำกับของ Clint Eastwood ใช่ครับ มันเป็นหนังสงครามมองต่างมุม ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้บนเกาะไอโวจิมา(Battle of Iwo Jima) เช่นเดียวกับ Flags of our Fathers (ที่ออกฉายห่างกันเพียงสองเดือนในปี 2006) แต่เรื่องนี้เล่าในมุมของฝั่งญี่ปุ่น ผ่านจดหมายที่ทหารญี่ปุ่นตั้งใจส่งให้ลูกเมียที่บ้าน แต่จดหมายไม่เคยถูกส่งแต่อย่างใดและถูกฝังไว้ในถ้ำบัญชาการ โดยปกติแล้วเรื่องราวของสงครามมักจะถูกถ่ายทอดจากมุมมองของผู้ชนะ ยิ่งเป็นหนังสงคราม Hollywood ด้วยแล้ว ยิ่งสร้างในมุมที่อเมริกาเป็นพระเอกเสมอ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีจนหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่สร้างโดยคนญี่ปุ่นด้วยซ้ำไป Letter from Iwo Jima เล่าถึงช่วงเวลา 4-5 เดือน หลังจากที่อเมริกายึดเกาะเป็นฐานที่มั่นได้สำเร็จ เราจะได้เห็นถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์การต่อสู้จนตัวตายที่ทหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยึดถือ กับปัญหาความเป็นมนุษย์ ดังเช่นความรักตัวกลัวตายเยี่ยงปุถุชน เพราะนอกเหนือจากชีวิตทหารและพลเมืองที่สูญเสียไปแล้ว สงครามยังพรากจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ออกไปด้วย

เกาะอิโวจิมา (Iwo Jima Island) มีชื่อจริงภาษาญี่ปุ่นว่า “อิโวโตะ” (Iwo To) ที่มีความหมายว่า “เกาะกำมะถัน” เป็นหนึ่งในเกาะทางใต้ของหมู่เกาะโบนิน(Bonin Islands) (หรือหมู่เกาะโอกาวะวาระ (Ogasawara Islands) นั่นเอง) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว ด้วยตำแหน่งของมันจึงเป็นเหมือนหน้าด่านที่อเมริกาต้องการเพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นสำคัญ ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ต้องรักษาเกาะนี้ไว้ไม่งั้นก็จะเสียเปรียบและความพ่ายแพ้ก็ย่อมตามมา ทีมงานใช้หาดแซนด์วิค (Sandvik Beach) หาดทรายสีดำที่อยู่บริเวณคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) เป็นสถานที่ถ่ายทำเช่นเดียวกับ Flags of our Fathers เพราะทรายภูเขาไฟสีดำที่นี่มีความใกล้เคียงกับทรายภูเขาไฟที่พบในหมู่เกาะโบนิน แต่ในขณะเดียวกันบางฉากก็ถูกถ่ายทำในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ โดยทีมงานคลุมชายหาดด้วยทรายสีดำเพื่อให้ดูเหมือนเกาะอิโวจิมา


18. Interstellar (2014)

กำกับ: Christopher Nola
นำแสดง: Tom Cruise, Morgan Freeman, Olga Kurylenko, Andrea Riseborough, Melissa Leo และ Nikolaj Coster-Waldau
สถานที่ถ่ายทำ: ที่ราบลุ่มมาฟาบอท (Mafabot) และธารน้ำแข็งสวีนาเฟลลส์โจกุล (Svinafellsjokull)
ฉาก: ดาวเคราะห์น้ำของ Miller และดาวเคราะห์น้ำแข็งของ Mann

Interstellar หรือ อินเตอร์สเตลลาร์ ทะยานดาวกู้โลก เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟดราม่า กำกับโดย Christopher Nolan เป็นเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ ที่ธรรมชาติกำลังจะวิบัติทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก รัฐบาลโลกจึงต้องหาทางอพยพย้ายคนหนีไปยังดาวดวงใหม่ โดยเล่าเรื่องผ่านอดีตนักบินนาซ่า Joseph Cooper (รับบทโดย Matthew McConaughey) ที่ทำไร่อยู่กับครอบครัว Murphy (รับบทโดย Mackenzie Foy) ลูกสาววัย 10 ขวบ ของเขาเชื่อว่าห้องของเธอมี “ผี” แต่ไม่นานพวกเขาค้นพบว่าสิ่งเหล่านั้นคือสัญญาณจากมนุษย์ต่างดาว ที่พยายามส่งข้อความเข้ารหัสมาโดยใช้คลื่นความโน้มถ่วงมาบอกอะไรบางอย่าง พวกเขาถอดรหัสจนได้ไปพบกับฐานลับของนาซ่าแห่งใหม่

ที่นี่เองที่ Cooper พบกับศาสตราจารย์ John Brand (รับบทโดย Michael Caine) ที่เผยว่าเขาได้พบรูหนอนที่เปิดออกใกล้ๆ กับดาวเสาร์ ซึ่งทางนำไปสู่อีกกาแล็กซี่หนึ่ง จากการส่งคนไปสำรวจดวงดาว 12 ดวง (แบบไปไม่กลับ) ปรากฎว่ามีดาวที่น่าจะอยู่อาศัยได้เพียง 3 ดวงเท่านั้น ซึ่งโคจรอยู่รอบหลุมดำมวลยวดยิ่งที่มีชื่อว่า การ์แกนทัว (Gargantua) Brand จึงได้ขอให้ Cooper มาเป็นผู้ขับยานอวกาศ Endurance เพื่อพานักวินยาศาสตร์สาว Dr.Amelia Brand (รับบทโดย Anne Hathaway) ลูกสาวของ Brand ไปสำรวจเพิ่มเติมว่าดาวเคราะห์ดวงไหนกันแน่ที่สามารถอยู่อาศัยได้และถ้าได้คำตอบที่ชัดเจน มนุษยชาติจึงจะตามไป Cooper จำใจยอมไป เพราะเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะช่วยเหลือครอบครัวเอาไว้ได้ แต่การออกเดินทางของเขาก็ทำลายความรู้สึกของ Murphy เป็นอย่างมาก

ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ต้องการฉากหลังเป็นดวงดาวอันห่างไกล ไอซ์แลนด์จึงเป็นสถานที่ถ่ายทำที่เหมาะสมที่สุด ธารน้ำแข็ง 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกันนักทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ แต่ถูกใช้เป็นฉากของดวงดาว 2 ดวงที่ต่างกันมากๆ ที่ราบลุ่มมาฟาบอท (Mafabot) ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubaejarklaustur) มีลักษณะเป็นที่ราบต่ำระหว่างทะเลเปิดและแม่น้ำ ถูกใช้เป็นฉากของดาวเคราะห์น้ำของ Miller และธารน้ำแข็งสวีนาเฟลลส์โจกุล (Svinafellsjokull) ที่อยู่ใกล้เคียง ได้ถูกใช้เป็นดาวเคราะห์น้ำแข็งสุดหฤโหดของ Mann (รับบทโดย Matt Damon) (สวีนาเฟลลส์โจกุลถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์มากมายจนได้ชื่อเล่นว่า Hollywood Glacier เลยทีเดียว)


19. Stardust (2007)

กำกับ: Matthew Vaughn
นำแสดง: Charlie Cox, Claire Danes, Sienna Miller, Peter O’Toole และ Michelle Pfeiffer
สถานที่ถ่ายทํา: แหลมสโทรคสเนส (Stokksnes) และน้ําตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss)
ฉาก: เจ้าชาย Septimus สอบสวนโหรหลวง และที่ซ่อนของปราสาทแม่มด

ผู้กำกับ Matthew Vaughn ได้นำเรื่องราวจากหนังสือมิ นิซีรีส์ระดับเบสต์เซลเลอร์ ของ ดีซีคอมิคส์(DC Comics) โดยนักเขียน Neil Gaiman และฝีมือการวาดภาพจาก Charles Vess มาถ่ายทอดในรูปแบบภาพยนตร์แ ฟนตาซีสุดตื่นตาตื่นใจในชื่ อ Stardust หรือ ศึกมหัศจรรย์ ปาฏิหาริย์รักจากดวงดาว เรื่องราวเริ่มต้นเรื่องในห มู่บ้านวอลล์ (Town of Wall) ที่เงียบเหงา ในประเทศอังกฤษ โดยเมืองแห่งนี้ได้ชื่อจากก ำแพงหินที่ช่วยป้องกันชาวเม ืองให้ปลอดภัยจากดินแดนคู่ข นานที่ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่ง ของกำแพง หนุ่มน้อย Tristan Thorn (รับบทโดย Charlie Cox) ได้ให้คำมั่นสัญญากับหญิงสา วที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน Victoria Forester (รับบทโดย Sienna Miller) ว่าเขาจะนำดาวตกมามอบให้เธอ  Tristan ได้ปีนข้ามกำแพงต้องห้ามและ ก้าวสู่อาณาจักรลึกลับเพื่อ ตามดาวตกไป เมื่อเดินทางข้ามเขตแดนมา Tristan พบว่าดาวตกไม่ได้เป็นอย่างท ี่เขาคิดไว้แต่กลับกลายเป็น หญิงสาว Yvaine (รับบทโดย Claire Danes) ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเดิน ทางท่องในจักรวาลและตกอยู่ใ นอันตรายอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากโดนตามล่าโดยเหล่า ร้ายผู้ทรงพลัง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชาย Septimus ผู้บ้าอำนาจ (รับบทโดย Peter O’Toole) หรือแม่มด Lamia ที่ทรงพลัง (รับบทโดย Michelle Pfeiffer) Tristan จึงต้องพา Yvaine หลบหนี กลายเรื่องราวการผจญภัยและร ักแท้ ที่ผสมผสานองค์ประกอบอันมหั ศจรรย์ ช่วยจุดประกายจินตนาการให้ค นทุกๆ คนต้องตกหลุมรักภาพยนตร์เรื ่องนี้

ด้วยฉากอลังเกินจินตนาการกา รถ่ายทำส่วนใหญ่จึงเกิดขึ้น ในสตูดิโอ แต่ก็มีบางฉากที่ถ่ายทำในปร ะเทศไอซ์แลนด์อยู่บ้าง เช่น ในแหลมสโทรคสเนส (Stokksnes) ที่มีหาดกรวดสีดำที่ทอดยาวเ หมาะสำหรับการดูนกและการถ่า ยภาพ หากคุณได้มีโอกาสไปเที่ยวบร ิเวณนี้ ขอแนะนำให้ไปชมภูเขาที่สูงช ัน 3 ลูก ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวท ี่เรียกชื่อง่ายที่สุดในประ เทศนี้แล้ว ได้แก่ ภูเขาเวสทราฮอร์น (Vestrahorn) แปลว่า “West Horn”, ภูเขาอีสทราฮอร์น (Eystrahorn) แปลว่า “East Horn” และ ภูเขาบรุนน์ฮอร์น (Brunnhorn) แปลว่า “Well Horn” หรือบ่อน้ำ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากร ูปทรงสามแฉกและสีดำทะมึน จึงได้ชื่อเล่นว่า ‘Batman Mountain’ (ถ้าโชคดีอาจได้พบกับแมวน้ำ  Selur ด้วยนะ)


20. Hostel Part ll (2007)

กำกับ: Eli Roth
นำแสดง: Lauren German, Roger Bart, Heather Matarazzo, Bijou Phillips และ Richard Burgi
สถานที่ถ่ายทํา: บ่อน้ําแร่บลูลากูน (Blue Lagoon)
ฉาก: การไล่ล่าในสปาน้ําแร่

Hostel Part II หรือ นรกรอชำแหละ 2 หนังภาคต่อที่กลายเป็นตำนานความสยองขวัญแบบสุดขั้ว ของผู้กำกับ Eli Roth ซึ่งเล่าเนื้อเรื่องต่อจากภาคแรก แต่เปลี่ยนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ เป็นบรรดาสาวสวยที่คิดจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังกรุงปราก แต่เปลี่ยนใจไปไปสโลวาเกียแทนเพราะอยากไปทำสปาอบและขัดผิว โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าฝันร้ายของพวกเธอกำลังเริ่มต้นขึ้น ทันทีที่พวกเธอเลือกที่จะพักโรงแรมนรก (โรงแรมเดียวกับภาคแรก) เจ้าหน้าที่โรงแรมได้สแกนใบหน้าของพวกเธอทุกคนจากพาสปอร์ต ส่งไปยังองค์กรที่เรียกกันว่า “หมาล่าเนื้อ” เพื่อให้ประมูลราคาค่าตัวพวกเธอ จากนั้นไม่นานคนที่ให้ราคาสูงสุดได้เดินทางมายังสโลวาเกีย เพื่อมาทำการทรมานและฆ่าคนที่เขาเลือกอย่างสุดโหด

ส่วนใหญ่ของ Hostel Part II จะถูกถ่ายทำในสตูดิโอและรอบๆ กรุงปราก แต่ผู้กำกับได้ตัดสินใจที่จะถ่ายทำฉากสปาในบ่อน้ำแร่บลูลากูน (Blue Lagoon) ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ซึ่งเป็นน้ำจากแหล่งความร้อนใต้พิภพ มีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ซึ่งช่วยรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง นอกจากจะเป็นสปาที่ตรงกับเนื้อเรื่องแล้ว ยังมีความงดงามของสระที่มีสีฟ้าขุ่นราวตัดกันกับสีเขียวเข้มของหญ้ามอสที่ปกคลุมหินลาวาสีดำอีกด้วย ถ้าคุณได้มีโอกาศไปเที่ยวไอซ์แลนด์ในหน้าหนาว ก็เป็นโอกาสดีมากๆที่จะได้ชมแสงเหนือไปพร้อมกับการแช่น้ำร้อนให้ผ่อนคลาย


21. Thor: The Dark World (2013)

กำกับ: Alan Taylor
นำแสดง: Chris Hemsworth, Natalie Portman, Tom Hiddleston, Anthony Hopkins, และ Christopher Eccleston
สถานที่ถ่ายทำ: ที่ราบสูงลานมานนาเลยการ์ (Landmannalaugar)
ฉาก: สวาตัลฟ์ไฮล์ม (Svartalfheim) ดินแดนของเหล่า Dark Elves

Thor: The Dark World หรือ ธอร์: เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรภาค ต่อของ Thor (2011) และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 8 ของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe: MCU) กำกับโดย Alan Taylor มีเนื่อเรื่องเริ่มต้นขึ้นเ มื่อเหล่า Dark Elves ชนเผ่าโบราณได้หวนฟื้นคืนชี พอีกครั้งและต้องการจะครบคร องจักรกาล แม้แต่ Odin (รับบทโดย Anthony Hopkins) ราชาแห่งปวงเทพและกษัตริย์แ ห่ง Asgard ก็ไม่สามารถจะรับมือได้ Thor (รับบทโดย Chris Hemsworth) เทพเจ้าสายฟ้าบุตรชายของ Odin จึงต้องร่วมมือกับ Loki (รับบทโดย Tom Hiddleston) น้องชายและบุรุษหลายหน้าผู้ ร้ายกาจ ต่อสู้กับ Malekith (รับบทโดย Christopher Eccleston) ผู้เคียดแค้น การเดินทางครั้งนี้ได้นำเข้ ากลับมาพบกับ Jane Foster (รับบทโดย Natalie Portman) หญิงสาวมนุษย์โลกอีกครั้ง และเจอเหตุการณืที่บังคับให ้เขาต้องยอมเสียสละทุกสิ่งท ุกอย่างเพื่อปกป้องดินแดนทั ้ง 9 ไว้ ในขณะเดียวกันยังมีพล็อตรอง ที่ว่าด้วยความทะเยอทะยานอย ากเป็นใหญ่ของ Loki เพื่อปูเนื้อเรื่องไปสู่ภาพ ยนตร์เรื่องต่อๆไปของ MCU อีกด้วย

นอกจากจะเป็นการใช้สถานที่ใ ห้สมจริงกับดินแดนนอกโลกแล้ ว การถ่ายทำในไอซ์แลนด์ยังเหม ือนเป็นการนำ Thor กลับบ้านอีกด้วย เพราะเหล่าทวยเทพในมาร์เวลน ั้น ได้รับแรงบรรดาลใจมากจากตำน านเทพเจ้านอร์ส (Norse Mythology) ของไอซ์แลนด์นั่นเอง โดยทีมงานได้ใช้
ที่ราบสูงลานมานนาเลยการ์ (Landmannalaugar) ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติฟยาลล าปาก (Fjallabak Nature Reserve) ในการถ่ายทำ เพราะมีวิวที่มีความงดงามดุ ดันรายล้อมไปด้วยสีดำของทุ่ งหินบะซอลต์ (Basalt) และสีสันของภูเขาหินไรโอไลต ์ (Ryolite) เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้น ที่ของภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) หนึ่งในภูเขาไฟชื่อดังในประ เทศไอซ์แลนด์ จึงทำให้พื้นที่ห่างไกลผู้ค นแห่งนี้เหมาะสมที่จะใช้เป็ นตัวแทนของ สวาตัลฟ์ไฮล์ม (Svartalfheim) ดินแดนของเหล่าเอลฟ์ทมิฬที่ มีมาเลคิธเป็นราชาปกครอง


22. Captain America: Civil War (2016)

กำกับ: Anthony Russo และ Joe Russo
นำแสดง: Chris Evans, Robert Downey Jr., Scarlett Johansson, Sebastian Stan, Anthony Mackie และ Daniel Brühl
สถานที่ถ่ายทำ: พื้นที่ใกล้กับหมู่บ้านวิค (Vik)
ฉาก: ฐานทัพไฮดราในไซบีเรีย (HYDRA Siberian Facility)

Captain America: Civil War หรือ กัปตันอเมริกา: ศึกฮีโร่ระห่ำโลก เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรภาค ต่อของภาพยนตร์ Captain America: The First Avenger (2011) และ Captain America: The Winter Soldier (2014) และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 13 ของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe: MCU) กำกับโดยสองพี่น้อง Anthony Russo และ Joe Russo เจ้าเก่า โดยเป็นเรื่องราวหลังจากการ ต่อสู้กันของเหล่า Avengers และ Ultron ใน Avengers: Age of Ultron (2015) ความเสียหายใหญ่หลวงของประเ ทศโซโคเวีย (Sokovia) นำมาสู่ข้อถกเถียงระหว่างปร ะเทศ ทำให้นักการเมืองมองว่าซูปเ ปอร์ฮีโรเป็นภัยต่อความมั่น คงของโลกพยายามที่จะออกกฎหม ายลงทะเบียนเหล่าฮีโรเพื่อท ี่จะคอยควบคุมพวกเขาเอาไว้ Tony Stark /  Iron Man (รับบทโดย Robert Downey Jr.) ที่กำลังจิตตกจากหายนะที่ตัวเ องเคยก่อขึ้น จึงได้สนับสนุน “ข้อตกลงโซโคเวีย (Sokovia Accords)” เพื่อให้มีผู้มาคอยกำกับดูแ ลการทำงานของเหล่าซูเปอร์ฮี โร่ที่อาจกระทำอะไรเกินเลย จนทำให้มีผู้คนบริสุทธิ์ต้อ งบาดเจ็บล้มตาย

แต่ในฝ่ายของ Steve Rogers /  Captain America (รับบทโดย Chris Evans) นั้นไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนี้  เพราะครั้งหนึ่งหน่วยชีลด์ (S.H.I.E.L.D) ที่เคยกำกับดูแลซูเปอร์ฮีโร ่ก็กลายเป็นฉากบังหน้าของพว กไฮดรา (Hydra) เช่นกัน ระหว่างนั้นเองกลับมีข่าวว่ า Bucky Barnes /  Winter Soldier (รับบทโดย Sebastian Stan) ออกมาสร้างความปั่นป่วน ทำให้บ้านเมืองที่กำลังอ่อนไห วต่อเหล่าผู้มีพลังพิเศษอยู ่แล้ว เพ่งเล็งเหล่าฮีโรยิ่งกว่าเ ดิม Steve ต้องออกสืบว่ามันเกิดเรื่อง ราวอะไรขึ้นกับเพื่อนรักของ เขากันแน่ แต่ก็ยิ่งทำให้ Tony ไม่พอใจเพราะคิดว่า Steve ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงเพราะ ต้องการปกป้องคนผิด จึงเกิดความร้าวฉานขึ้นภายใ นทีม Avengers ในขณะที่ศึกภายนอกจากวายร้า ยตัวใหม่อย่าง Helmut Zemo (รับบทโดย Daniel Brühl) ก็กำลังคืบคลานเข้ามา

ถึงแม้ว่าทีมงานจะใช้พื้นที ่ใกล้กับหมู่บ้านวิค (Vik) เป็นตัวแทนฐานทัพไฮดราในไซบีเรีย (HYDRA Siberian Facility) อันหนาวเหน็บ แต่จริงๆแล้วบริเวณใต้สุดขอ งประเทศไอซ์แลนด์แห่งนี้มีค วามสวยงามน่าหลงไหลเป็นอย่า งมาก ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านอันเงี ยบสงบ หาดทรายสีดำอันงดงาม หรือแม้แต่ผาหินและภูเขาหิน บะซอลยอดแหลมที่อยู่ในทะเล ก็ล้วนสวยงามอลังการควรค่าแ ก่การไปเยียมชมสักครั้ง


23. Star Trek: Into Darkness (2013)

กำกับ: J. J. Abrams
นำแสดง: Chris Pine, Zachary Quinto, Zoe Saldana, Benedict Cumberbatch, Karl Urban, Alice Eve และ John Cho
สถานที่ถ่ายทำ: หาดทรายดำเรย์นิสฟยาร่า (Reynisfjara)
ฉาก: ด็อกเตอร์ Leonard McCoy และ Carol Marcus นำยานลงจอดบนดาวเคราะห์น้อย เพื่อตรวจสอบตอร์ปิโดต้นแบบ

Star Trek Into Darkness หรือ สตาร์เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟแอ็กชั่ นลำดับที่ 12 ของแฟรนไชส์สตาร์ เทรค (Star Trek Franchise) และเป็นภาคต่อจาก Star Trek (2009) ซึ่งยังคงกำกับโดย J. J. Abrams และใช้นักแสดงชุดเดิม โดยเป็นเหตุการณ์เมื่อลูกเร ือของยาน USS Enterprise กลับมาถึงดาวโลก พวกเขาได้เผชิญกับพลังที่น่ าสะพรึงกลัวและยากจะหยุดยั้ ง อันเกิดขึ้นจากสายลับ John Harrison (รับบทโดย Benedict Cumberbatch) ได้ทำลายฐานทัพของ Starfleet ที่ London และกำลังจะทำให้โลกเข้าสู่ส ถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ ง จึงถึงเวลาที่กัปตัน James T. Kirk (รับบทโดย Chris Pine), Spock (รับบทโดย Zachary Quinto) และ Nyota Uhura (รับบทโดย Zoe Saldana) จึงรับหน้าที่ในการนำทีมสู่ พื้นที่สงคราม เพื่อไล่ล่าคนร้ายที่หวังจะ สร้างสงครามทำลายเผ่าพันธุ์ มนุษย์

ไอซ์แลนด์ถูกใช้เป็นฉากถ่าย ทำฉากที่ด็อกเตอร์ Leonard McCoy (รับบทโดย Karl Urban) และ Carol Marcus (รับบทโดย Alice Eve) นำยานลงจอดบนดาวเคราะห์น้อย เพื่อตรวจสอบตอร์ปิโดต้นแบบ  ดาวเคราะห์ร้างอันห่างไกลหล ายปีแสงแห่งนี้ ถูรังสรรค์โดยการถ่ายทำบนหา ดทรายดำเรย์นิสฟยาร่า (Reynisfjara) ร่วมกับความมหัศจรรย์ของเทค นิค CGI โดยหาดทรายดำเรย์นิสฟยาร่าน ี้เอง ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งใน หาดทรายสีดำที่สวยที่สุดบนเ กาะไอซ์แลนด์ และ ติด 1 ใน 10 ของหายทรายที่ควรมาเห็นก่อน ตาย โดยสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟิก (National Geographic Society) ในปี ค.ศ.1991 อีกด้วย


24. Black Mirror: Crocodile (2017)

อำนวยการผลิต: Charlie Brooker
กำกับ: John Hillcoat
นำแสดง: Andrea Riseborough, Andrew Gower, Kiran Sonia Sawar และ Anthony Wels
สถานที่ถ่ายทำ: ทั่วประเทศไอซ์แลนด์
ฉาก: เกือบทุกฉาก

Crocodile หรือ จระเข้ เป็นตอนที่ 3 ในซีซันที่ 4 ของ แบล็ก มิร์เรอร์ (Black Mirror) หนังสั้นรวมชุด (Anthology Series) จากสหราชอาณาจักร ที่นำเสนอเกี่ยวกับผลกระทบที่ไม่คาดฝันของเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ละตอนจะไม่เกี่ยวเนื่องกัน โดยดำเนินเรื่องผ่านสังคมในอนาคตอันใกล้หรือโลกปัจจุบันแบบสมมุติ ด้วยอารมณ์มืดหม่นหรือเสียดสี สร้างคำถามในใจผู้ชม ถือเป็นหนึ่งในผลงานของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix Original) ที่ได้รับความนิยมสูง (ซีซันที่ 1-2 เป็นผลงานของ Channel 4 แล้วจึงย้ายช่องมาเป็นผลงานของ Netflix ในซีซันที่ 3-5)

โดยในตอน Crocodile นี้อำนวยการผลิตและเขียนบทโดย Charlie Brooker กำกับโดย John Hillcoat เป็นเรื่องของ Mia (รับบทโดย Andrea Riseborough) หญิงสาวที่แต่งงาน มีอาชีพที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขกับครอบครัวแสนเพรียบพร้อม แต่ต้องทนทุกข์เพราะเรื่องราวในอดีตที่ Rob (รับบทโดย Andrew Gower) แฟนเก่าของเธอขับรถชนคนตาย เธอกับแฟนได้ช่วยกันกำจัดศพ เพื่อปกปิดความผิดไว้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่แล้วก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ Mia ได้บังเอิญเห็นอุบัติเหตุเล็กๆ บนท้องถนนเข้า ทำให้ Shazia (รับบทโดย Kiran Sonia Sawar) ผู้ตรวจสอบประกันภัยต้องขอให้เธอมาช่วยเป็นพยานเพื่อการฟ้องร้อง แต่เรื่องจะไม่บานปลายขนาดนี้หาก Shazia ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่องดูความทรงจำ(Recaller) ที่สามารสแกนภาพความทรงจำของพยานได้ Mia จึงต้องทำทุกวิถีทาง(แม้ว่าจะสร้างความสูญเสียมากกว่าเดิม) เพื่อไม่ให้ความลับของเธอ มาทำลายชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเธอ

จะมีอะไรที่มีความสุขไปกว่าการได้อยู่อาศัยในบ้านสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ประเทศไอซ์แลนด์จึงถูกใช้เป็นฉากหลังชีวิตที่สมบูรณ์แบบของ Mia นอกจากทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์(Kleifarvatn) และทะเลสาบไกรนาวาท์น(Graenavatn) ที่ถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำหลักแล้ว ในเรื่องคุณจะได้เห็น ศูนย์ประชุมและแสดงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa Concert and Conference Hall) และทยอร์นิน(Tjornin) ทะเลสาบขนาดเล็กที่โดดเด่นในใจกลางเมืองเรคยาวิกอีกด้วย ซึ่งเรคยาวิก (Reykjavik) เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ถือเป็นเมืองหลวงที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด จึงทำให้มีธรรมชาติที่งดงามบริสุทธิ์ อาคารบ้านเรือนสีลูกกวาดรูปทรงน่ารัก และสถาปัตยกรรมทรงคุณค่ามากมาย เป็นจุดหมายสำคัญที่ควรไปท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งในไอซ์แลนด์


25. Game of Thrones (2011-2019)

อำนวยการผลิต: David Benioff และ D. B. Weiss
นำแสดง: Sean Bean, Emilia Clarke, Kit Harington, Peter Dinklage, Sophie Turner, Maisie Williams, Lena Headey, Nikolaj Coster-Waldau, Gwendoline Christie, Jack Gleeson และ Jason Momoa
สถานที่ถ่ายทำ: ทั่วประเทศไอซ์แลนด์
ฉาก: หลายฉาก

Game of Thrones หรือ มหาศึกชิงบัลลังก์ เป็นซีรีส์แฟนตาซีย้อนยุคของช่อง HBO สร้างสรรค์โดย David Benioff และ D. B. Weiss ซึ่งดัดแปลงจากหนังสือนิยายขายดีของ George R. R. Martin ชื่อชุด มหาศึกชิงบัลลังก์ (A Song of Ice and Fire) และได้กลายเป็นรายการทีวีที่มียอดผู้ชมสูงมากๆ ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ในด้านการแสดง ความซับซ้อนของตัวละคร เนื้อเรื่อง ขอบเขตของเรื่อง และการผลิตที่มีคุณภาพสูง เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จสุดๆ จึงมีชุมชนของกลุ่มผู้ชื่นชอบ GOT เกิดขึ้นในหลายประเทศ

ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในดินแดนสมมติคือ ทวีปเวสเทรอสและเอสซอส ซึ่งเกิดเรื่องราวที่หลากหลายและมีตัวละครมากมาย โดยมีเรื่องราวของการชิงบัลลังก์เหล็กแห่ง 7 อาณาจักร ซึ่งมีโยงใยของพันธมิตรและความเป็นศัตรูกันระหว่างตระกูลขุนนางต่างๆ ซึ่งบ้างก็ต่อสู้กันเพื่อแย่งบัลลังก์ ในขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรที่พยายามปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคามจากโบราณกาล ทั้งภัยจากมนุษย์ที่โหดร้าย ภัยจากสัตว์ในตำนานที่อยู่ในแดนเหนืออันห่างไกล และภัยจากฤดูหนาวอันยาวนานที่กำลังจะปกคลุมทวีปเวสเทรอส มี “ฤดูร้อนยาวนานหลายทศวรรษ และฤดูหนาวอาจยาวนานจนชั่วชีวิต” รวมถึงเรื่องราวของทายาทคนสุดท้ายของตระกูลกษัตริย์ที่ถูกชิงบัลลังก์ไป ซึ่งถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรไปยังทวีปเอสซอสโพ้นทะเลและวางแผนที่จะกลับมาชิงบัลลังก์คืน และเส้นเรื่องที่สามเป็นเรื่องราวของอาณาจักรทั้งหมด

ด้วยภูมิประเทศอันโดดเด่นในบริเวณอาร์กติกเซอร์เคิลทำให้ไอซ์แลนด์ได้รับฉายาว่าเป็นประเทศแห่งธารน้ำแข็งและภูเขาไฟ สมกับชื่อ A Song of Ice and Fire (ชื่อของนวนิยายแฟนตาซีที่นำมาสร้างเป็นซีรีส์ Game of Thrones) ซึ่งใช้สถานที่ถ่ายทำหลากหลายที่ทั่วโลก เพื่อจำลองฉากในจินตนาการแสนอลังการให้ออกมาสมจริงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เบลฟาสต์(Belfast) เมืองหลวงของนอร์เทิร์น ไอร์แลนด์ (Northern Ireland) มอลตา(Malta) โครเอเชีย(Croatia) โมร็อกโก(Morocco) สเปน(Spain) และสหรัฐอเมริกา(United States of America) สำหรับไอซ์แลนด์นั้น ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักสำหรับดินแดนหนาวสุดขั่วนอกกำแพง(Beyond The Wall) จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหนือจิตนาการทั้งหมด

สถานที่ : ภูเขาเคิร์กจูเฟล(Kirkjufell)
ฉาก : บ้านเกิดของไวท์วอล์กเกอร์(White Walkers Birthplace)

ภูเขาเคิร์กจูเฟล(Kirkjufell) ภูเขาที่โดงดังที่สุดของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองกรุนดาร์ฟจอร์ด (Grundarfjordur) ชื่อของภูเขาแห่งนี้มีความหมายว่าโบสถ์ซึ่งมาจากรูปร่างของภูเขาที่คล้ายคลึงกับโบสถ์หรือหมวกแม่มดนั้นเอง หากได้เข้าไปชมใกล้ๆจะเห็นว่าตัวภูเขาจะมีลักษณะเป็นชั้นๆ ต่างสีกัน ชั้นล่างสุดจะเป็นฟอสซิล ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเป็นล้านปีมาแล้ว ใกล้ๆ กันมี น้ำตกเคิร์กจูเฟลส์ฟอสส์(Kirkjufellsfoss) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะถ่ายภาพสวยๆ ของน้ำตกที่มีฉากหลังเป็นภูเขาอันตระการตา

เราจะเห็นภูเขาเคิร์กจูเฟลได้อย่างชัดเจนในซีซั่นที่ 6 ตอนที่ 5 เมื่อ Brandon stark (รับบทโดย Isaac Hempstead-Wright) มองดูเหตุการณ์ในอดีตแล้วเห็นพวกเด็กแห่งพงไพร (Children of the Forest) สร้างไนท์ คิง(Night King) อยู่ที่บริเวณภูเขาหัวลูกศร ทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านเกิดของของไวท์วอล์กเกอร์ (White Walkers Birthplace) และยังคงเป็นบริเวณที่พวกมันสร้างกองทัพแห่งความตายอีกด้วย จึงถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถาที่ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเรื่องเลยก็ว่าได้


จบครบแล้วนะครับ สําหรับลิสท์ 25 ภาพยนตร์ที่ถ่ายทําด้วยสถานที่จริงในไอซ์แลนด์ที่ผมจัดมาให้ เข้าใจแล้วใช่ไหมละครับ ว่างดงามเหนือคําบรรยายเนี่ยมันมากมายขนาดไหนและทําไมไอซ์แลนด์นี้ถึงได้เป็นประเทศที่ผู้คนใฝ่ฝันจะ เดินทางไปเยี่ยมชม คุณสามารถใช้ลิสท์นี้เป็นเป็นลิสท์หนังที่จะดูก่อนที่จะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ หรือ จะใช้วางแผนการ เดินทางในรูปแบบใหม่ก็เท่ไม่หยอกเลยนะ

ลองนึกดูสิครับถ้าคุณได้เปลี่ยนประเทศที่งดงามแห่งนี้เป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่ให้ภาพคมชัดสวยงามอลังการ ได้ สัมผัสไออุ่นจากแสงแดด รับรู้ความหนาวเย็นของสายลม และได้ยินเสียงของคลื่นกระทบผาหิน มันจะฟินขนาดไหน นะเป็นบรรยากาศเต็มอารมณ์ที่ไม่ว่าโรงหนังไฮเทคแค่ไหนก็ทําไม่ไดแ้น่นอนเลยละหวังว่าบทความนี้จะช่วยพาโรง หนังจอยักษ์ของผม เข้าไปอยู่ในลิสท่องเที่ยวของผู้อ่านทุกคนนะครับ

แล้วเจอกันที่ประเทศไอซ์แลนด์ครับ 

คุณยังสามารถตามรอยสถานที่ถ่ายทำจริงของ Game of Thrones (GOT) มหาศึกชิงบังลังก์ ในประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) ดินแดนเหนือกำแพง จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหนือจิตนาการทั้งหมด ได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้
https://web.facebook.com/worldexplorerthailand/posts/2274615859458425

วันที่

20-04-2020

หมวดหมู่

, , , ,

เรื่องโดย

@worldexplorer