กันยายนเป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูนี้เป็นช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์ที่สุดช่วงหนึ่งของรัสเซีย ที่สำคัญยังเป็นช่วงที่ World Explorer ชอบพาคุณไปดูใบไม้สีเขียวสดค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ท้องฟ้าสดใสกับแสงอาทิตย์ที่กำลังดี ขนาดที่ถ่ายมุมไหนรูปก็สวยโดยไม่ต้องแต่ง แถมอากาศที่เย็นสบาย เหมาะแก่การสำรวจดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานชนิดที่เล่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด

เรารักที่พาคุณไปตามรอยอดีตท่ามกลางความงามและมั่งคั่งของดินแดนหลังม่านเหล็ก ทั้งทริป 250 ปีความสัมพันธ์ไทยรัสเซีย ทริป 100 ปีที่ไร้ซาร์ ถึงตอนนี้จะคิดแต่ไม่ถึง แต่มีรูป 8 ที่เที่ยวในรัสเซียห้ามพลาดมาฝากให้หายคิดถึงนะคะ

เมื่อโลกพร้อม เราก็พร้อมจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์สุด Exclusive ค่ะ

#ExploretheExclusiveExperience #WorldexplorerThailand


พระราชวังเครมลิน (Kremlin Palace)

ไม่ได้ไปพระราชวังเครมลินก็เหมือนไปไม่ถึงมอสโก เครมลินเปรียบเสมือนหัวใจของมอสโกและยังเป็นศูนย์กลางอำนาจในการปกครองของรัสเซีย แต่เดิมเป็นเพียงป้อมไม้ที่ถูกต่อเติมเสริมแต่งจนกลายมาเป็นสถาปัตยกรรมขนาดมหึมาอย่างปัจจุบัน ภายในเครมลินประกอบด้วยหลายส่วนไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์(Armoury Chamber) ที่รวบรวมศาสตราวุธต่างๆ ที่ใช้ในการสงคราม เครื่องประดับและของที่มีค่ามากมายของราชวงศ์โรมานอฟ พิพิธภัณฑ์พระคลังเพชร (Diamond Fund) ที่จัดแสดงเพชร ทองคำ  และอัญมณีมูลค่ามหาศาลที่แสดงให้เห็นความร่ำรวยของรัสเซีย โบสถ์ต่างๆ อาทิ วิหารอัสสัมชัญ (Cathedral of the Assumption) ที่ใช้สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาคารที่ทำการของรัฐบาล และยังบ้านของประธานาธิบดีรัสเซียอีกด้วย


จัตุรัสแดง (Red Square)

โบราณว่าคำว่า “แดง” ในภาษารัสเซียจริงๆ แล้วแปลว่า “สวย” ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าความหมายเปลี่ยนเป็น “สีแดง” จากจัตุรัสสวยจึงเป็นจัตุรัสแดงไป  จัตุรัสแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอสโกเคียงคู่อยู่ข้างเครมลิน โดยทำหน้าที่เป็นเวทีของเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ของประเทศ ทั้งการประท้วงและการเฉลิมฉลอง ทั้งการสวนสนามแสดงแสนยานุภาพและเป็นที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ อย่าง ตลาดคริสต์มาส นอกจากนี้ที่นี่ยังรายล้อมด้วยสถานที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารเซนต์บาซิล(St.Basil Cathedral) วิหารทรงหัวหอมสัญลักษณ์ของมอสโก ห้างกุม (GUM Department store) ห้างเก่าแก่อายุ 120 ปี และสุสานเลนิน (Lenin Mausoleum) ผู้นำคนสำคัญแห่งรัสเซีย


มหาวิหารพระคริสต์ผู้ไถ่บาป (Cathedral of Christ the Savior)

มหาวิหารพระคริสต์ผู้ไถ่บาป เป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมอสโก สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะที่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เอาชนะกองทัพฝรั่งเศสของนโปเลียนได้ แต่ใช้เวลาสร้างถึง 40 ปี ต่อมาในสมัยโซเวียตสตาลิน(Stalin) ก็สั่งทำลาย และกลายเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่เห็นเป็นสถาปัตยกรรมอลังการอย่างในปัจจุบันคือวิหารที่สร้างขึ้นมาใหม่ในช่วงทศวรรษที่ 90 โดยเป็นผลลัพธ์จากแรงศรัทธาของชาวมอสโก ภายในวิหารตกแต่งอย่างดงาม แต่หากใครไปแล้วยังไม่ได้ขึ้นไปชมวิวที่ชั้นบนของวิหาร แนะนำว่าต้องกลับไปอีกครั้งเพราะวิวมอสโกแบบ 360 องศานั้นสวยจนไม่อยากกลับบ้านเลยทีเดียว


สถานีรถไฟใต้ดินมอสโก (The Moscow Metro)

ก้าวเท้าเข้าสู่สถานีรถไฟใต้ดินของกรุงมอสโก ก็จะพบกับความน่าทึ่งของวิศวกรรมการก่อสร้างในอดีต และสถาปัตกรรมอันงดงามที่สะท้อนแนวคิดในอดีตและเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ทั้งประติมากรรม ภาพโมเสก และการตกแต่งต่างๆ ล้วนทำให้สถานีรถไฟใต้ดินมอสโกได้รับการขนานนามว่าสวยที่งามที่สุดในโลก โดยแต่ละสถานีจะตกแต่งแตกต่างกันไป ซึ่งทั่งเมืองมีสถานีมากกว่า 200 แห่งและมีคนใช้บริการถึงกว่า 10 ล้านคน นอกจากนี้ยังเคยทำหน้าที่เป็นหลุมหลบภัยเมื่อครั้งเผชิญหน้ากับสงครามเย็นอีกด้วย


มหาวิหารเซนต์ไอแซค (St.Isaac Cathedral)

มหาวิหารเซนต์ไอแซค ที่โดดเด่นด้วยโดมสีทองขนาดมหึมาที่ฉาบด้วยปรอทผสมทองคำหลอมเมราดลงไป และสารปรอทนี้เองที่ทำให้มีคนงานเสียชีวิตไปถึง  60 คน เนื่องจากการสูทดมปรอท ที่แห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 40 ปี โดยสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญไอแซคแห่งดอลมาเทีย นักบุญอุปถัมภ์ของพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราชผู้สร้างเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ข้างนอกก็อลังการ ข้างในก็ไม่ธรรมดาเมื่อตกแต่งด้วยสีเหลืองทองอร่ากับเสาหินหายากที่อย่างมาลาไคต์และลาพิซลาซูลี


พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof)

พระราชวังริมฝั่งอ่าวฟินแลนด์ที่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชทรงสร้างขึ้น พระราชวังแห่งนี้ที่ได้รับสมญานามว่าเป็น แวร์ซายแห่งรัสเซีย และได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากพระราชวังแวร์ซายแห่งฝรั่งเศส ห้องต่างๆ ภายในอาคารล้วนตกแต่งอย่างวิจิตร ขณะที่ภายนอกรายล้อมด้วยอุทยานพฤกษาและสวนน้ำพุก็งดงามไม่แพ้กัน น้ำพุทั้งหมดไม่ใช้ปั๊มน้ำ แต่เป็นการกักเก็บน้ำและยกระดับให้เกิดแรงดันน้ำ ไปถึงทั้งทีต้องไปชมน้ำพุแซมซั่น ซึ่งสามารถทำให้น้ำพุ่งสูงถึง 20 เมตรทีเดียว


พระราชวังแคทเธอรีน (Catherine Palace)

อยู่ห่างเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปเพียง 14 กิโลเมตร ที่นี่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชเพื่อใช้เป็นที่ประทับของพระมเหสี พระนางแคทเธอรีน เมื่อปี ค.ศ.1717 ภายในตกแต่งอย่างงดงามผสมผสานหลากสไตล์จนได้มาเป็นรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “รัสเชี่ยนบาโรก(Russian Baroque)” ห้องหับต่างๆ ในพระราชวังก็ตกแต่งต่างกันไป ทำให้มีความงามเฉพาะตัว แต่ห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือห้องอำพัน ที่ทั้งห้องประดับด้วยอำพัน งดงามขนาดไหนสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น


พระราชวังฤดูหนาวเฮอร์มิเทจ (Hermitage Museum)

ที่เที่ยวยอดฮิตแห่งเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของสำคัญไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยของจัดแสดงที่มากกว่า 3 ชิ้น ทั้งภาพเขียน ประติมากรรม รูปแกะสลัก เหรียญตราต่างๆ ตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณไปจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 แล้วยังมีผลงานของศิลปินดังชื่อก้องโลกไม่ว่าจะเป็น เลโอนาร์โด ดา วินชี มิเคลันเจโล ราฟาเอล แรมแบรนท์ แวนโก๊ะ โรแดง และอีกมากมาย มากขนาดที่ถ้าจะชมห้องจัดแสดงทั้ง 400 ห้อง และของที่จัดแสดงทั้งหมด หากชมเพียงชิ้นละ 1 นาที จะต้องเวลาชมวันละ 8 ชั่วโมงทุกวัน รวมทั้งหมดประมาณ 15 ปี (15 ปีเท่านั้นเอง…….)


หวังว่า 8 รูปนี้จะพอบรรเทาความคิดถึงไปได้บ้างนะคะ อย่างไรก็ตามรัสเซียเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลและยังมีอีกหลายๆแห่งที่งดงามไม่แพ้กัน จะเป็นที่ไหนกันบ้าง โอกาสหน้าจะเอารูปมาให้ชมกันนะคะ

วันที่

17-09-2020

หมวดหมู่

, , ,

เรื่องโดย

@worldexplorer